งานไม้เฌอร่า เทคโนโลยีทดแทนไม้ธรรมชาติในการตกแต่งบ้าน

งานไม้เฌอร่า 

ปัจจุบันนี้ การแต่งบ้านด้วยไม้ยังคงเป็นการแต่งบ้านสไตล์คลาสสิค อบอุ่น ดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญยังดูทันสมัยไม่ตกยุคอีกด้วย แต่การใช้ไม้แท้ในการตกแต่งบ้านนั้นจะมีราคาค่อนข้างสูง วันนี้ผมเลยอยากพาผู้อ่านทุกท่านมารู้จักกับไม้ฝาเฌอร่า เทคโนโลยีทดแทนไม้ธรรมชาติในการตกแต่งบ้าน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ท่านได้อย่างมาก
ไม้ฝาเฌอร่าผลิตจากเทคโนโลยีไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่มีส่วนประกอบของปูนซีเมนต์ ซิลิกา และเส้นใยเซลลูโลส ทำให้มีความแข็งแรง ทนทาน รองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทนได้กับทุกสภาพอากาศ ทนน้ำ ทนชื้น ทนไฟ ป้องกันเสียงได้เป็นอย่างดี สามารถดัดให้โค้งงอเพื่อให้เปลี่ยนรูปทรงได้ตามต้องการที่สำคัญคือปราศจากปัญหาปลวกกวนใจด้วย

ไม้ฝาเฌอร่ามีหลายแบบให้เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็นสี เนื้อไม้ หรือแม้แต่ความหนาที่มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งไม้ฝาเฌอร่าแต่ละชนิดจะเหมาะกับวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการเลือกใช้งานแต่ละแบบ ก็จะมีวัสดุและคุณสมบัติที่ใช้แตกต่างกันเช่นกัน

ผมเลยอยากพาผู้อ่านทุกท่านมารู้จักกับประเภทของไม้ฝาเฌอร่า พร้อมทั้งวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้

ไม้ฝาเฌอร่า 3 ประเภทเหมาะกับงานแบบไหนบ้าง?

1 ไม้พื้นเฌอร่า
ไม้พื้นเฌอร่าเป็นไม้พื้นเทียมหรือไม้พื้นสังเคราะห์ที่เกิดจากไฟเบอร์ซีเมนต์ ให้ความสวยงามเรียบง่ายตามแบบธรรมชาติ สามารถรับแรงกระแทกได้ดี ไม่มีปัญหาเรื่องการบิดตัว พองตัวหรือหดตัว มีขนาดกว้างประมาณ 4 ถึง 12 นิ้ว เหมาะสำหรับการปูพื้นในสวนนอกบ้าน ทางเดินบริเวณรอบสระว่ายน้ำ ทางเดินในสวน และพื้นที่พักผ่อนสำหรับเด็กๆ ในบ้านหรือโรงเรียน

2 ไม้ระแนงเฌอร่า
ไม้ระแนงเฌอร่าเป็นไม้ระแนงที่ทำจากไฟเบอร์ซีเมนต์ชนิดปราศจากใยหิน ทนต่อทุกสภาพอากาศ ไม่มีการโค้งงอหดตัว มักใช้เพื่อตกแต่ง และเป็นส่วนประกอบในโครงสร้างผนังหรือพื้นที่ว่างต่างๆ เพื่อเพิ่มความสวยงามโดดเด่น ตามสไตล์ของเจ้าของบ้าน

3 ไม้แผ่นลายเฌอร่า หรือเฌอร่าบอร์ด
ไม้แผ่นลายเฌอร่าหรือเฌอร่าบอร์ด เป็นการเพิ่มเทคโนโลยีคริสตัลเอ็นจิเนียริ่ง (crystal engineering Technology) ที่จะเพิ่มความแข็งแรงให้กับเทคโนโลยีไฟเบอร์ซีเมนต์และยังเพิ่มความสวยงาม ด้วยลวดลายต่างๆ ทำให้เป็นสไตล์โมเดิร์นขึ้นไปในตัว ตอบโจทย์ความต้องการของทุกสไตล์สถาปัตยกรรม

ไม้พื้นเฌอร่าสามารถใช้ในการตกแต่งส่วนต่างๆ ของบ้านได้ตามสไตล์ที่เจ้าของบ้านต้องการ
ทั้งนี้เนื่องจากการใช้ไม้เฌอร่าแทนไม้จริง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างมาก ทำให้ปัจจุบันมีการเลือกใช้ไม้เทียมเหล่านี้มากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังสามารถเลือกใช้ในการตกแต่งบ้านในสไตล์ต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการได้อย่างดี ดังนั้นนอกจากจะเลือกไม้เฌอร่าจากการใช้งานหรือวัตถุประสงค์แล้ว ท่านควรจะเลือกไม้เฌอร่าจากไลฟ์สไตล์หรือรสนิยมที่ท่านต้องการด้วยเช่นกัน

คลิกติดต่อสั่งซื้อสินค้า

สินค้าแนะนำ

ประโยชน์ของไม้แบบ และ การดูแลรักษาไม้แบบ

ไม้แบบเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องมืออย่างหนึ่ง ที่เอาไว้ใช้สำหรับสร้างบ้าน โดยเป็นแบบหล่อเสาบ้าน คานบ้าน และไว้สำหรับเป็นแม่แบบเทถนนคอนกรีต ถ้าขาดแม่แบบที่ทำจากไม้แบบไปเรายังสามารถใช้แบบที่เป็นเหล็กมาทดแทนได้เหมือนกัน

ไม้แบบ (Wood Pattern) คือ อะไร 
ไม้แบบ คือ โครงสร้างชั่วคราวที่ทำจากไม้ ใช้สำหรับติดตั้งเป็นแม่แบบในงานหล่อคอนกรีตและคอนกรีตเสริม และโครงสร้างและส่วนประกอบต่าง ๆ ของอาคาร เช่น เสา คาน พื้น ผนัง ถนน เป็นต้น โดยไม้แบบจะมีหน้าที่รองรับน้ำหนักของคอนกรีต และสร้างขอบเขตการเทให้คอนกรีต ออกมาเป็นรูปแบบที่เราต้องการ

ไม้แบบ มีประโยชน์อย่างไร
ประโยชน์ของไม้แบบ ก็คือ  ใช้แบบเป็นแบบเสาและแบบคานบ้าน ส่วนมากช่างหรือผู้รับเหมาจะตัดแล้วใช้งานได้เรื่อย ๆ ไม่นิยมตัดซ้ำ ถ้าความยาวไม่พอก็จะนำมาต่อกัน ไม่นิยมตัดไม้แบบเพื่อให้ความยาวพอดีกับงาน และไม้แบบก็จะใช้สำหรับกั้นเป็นแบบเทพื้นบ้านได้อีกด้วย นอกจากไม้แบบแล้วยังมีแบบพลาสติกและแบบเหล็กที่ใช้ได้เหมือนกัน

ประเภทของไม้แบบ 
ไม้แบบมีหลายประเภท ทั้งไม้แบบไม้เนื้อแข็ง , เนื้อแดง , ไม้กระบาก , หรือไม้มะพร้าว ซึ่งขึ้นอยุ่กับการใช้งานและเงินในกระเป๋าอีกด้วย

ไม้แบบ ทำมาจากไม้อะไร
ไม้แบบส่วนมากที่นิยมขาย และนิยมใช้มักจะทำมาจากไม้กระบาก หรือไม้ยาง เพราะมีความแข็งพอสมควร รองรับน้ำหนักของคอนกรีตได้เป็นอย่างดี  เนื้อไม้ไม่แข็งจนเกินไป และไม้แบบที่ได้ก็ไม่บิดไม่งออีกด้วย

ไม้แบบ สามารถเอามาทำแบบได้กี่ครั้ง
ไม้แบบ ถ้าเราเก็บรักษาเป็นอย่างดี ไม่เก็บไว้ในที่ชื้น ไม่โดนน้ำหรือไม่เปียกฝน ไม่โดนปลวกกิน โดนมอดกิน ไม่หัก ไม่บิ่น ไม่ป็นรู ก็จะใช้ได้นาน
ไม้แบบสำหรับปลูกบ้าน ทำแบบเสา แบบคาน จะมีขนาดตายตัว และมีไม้หน้า 8 นิ้ว และ 10 นิ้ว ไว้ให้ช่างหรือผู้รับเหมาใช้งาน และส่วนมากช่างจะไม่นิยมตัดไม้แบบ เพราะต้องเสียต้นทุนซื้อไม้แบบมาใช้งานใหม่อีก ถ้าอยากใช้งานได้หลาย ๆ ครั้งใช้งานได้นาน ๆ ต้องเก็บรักษาไม้แบบให้ดี ๆ

การดูแลและการเก็บรักษาไม้แบบให้ใช้ได้นาน
ไม้แบบการดูแล ก็ทำง่าย คือ หลังจากแกะแบบออกมาแล้ว ให้เคาะเศษปูนออกจากตัวไม้ นำไม้ไปล้างทำความสะอาด ถ้ามีตะปูติดอยู่ที่แผ่นไม้ ให้ถอนเอาออก แล้วเอาไปพึ่งแดดให้แห้ง แล้วนำเก็บไว้ในที่แห้ง ๆ ไม่ให้ไม้แบบเปียกฝน ส่วนการเก็บรักษา ไม้แบบไม่ควรเก็บในที่ชื้นไม่กองไม้แบบไว้บนดิน เพราะปลวกและมอดจะกินไม้แบบทำให้ไม้แบบผุกร่อน ไม่ควรตัดไม้แบบบ่อย ๆ หรือทำให้ไม้แบบเป็นรู

ไม้แบบ เอาไปใช้งานแบบไหน ปัจจุบันไม้แบบราคาส่วนใหญ่ในท้องตลาดประมาณกี่บาท
ไม้แบบ หน้าที่ของไม้แบบ ก็คือ เอาไปทำเป็นแบบเสา และแบบคาน แบบเสานี่คือเทปูนใส่ไม่ว่าจะเป็นปูนที่ผสมเอง หรือปูนคอนกรีตผสมเสร็จ แล้วเอามาเทลงในเสาที่เราทำแบบไม้เอาไว้ เพื่อใช้เป็นเสาบ้าน คานคอดิน คานบ้าน เป็นต้น จะเสาใหญ่คานใหญ่แค่ไหน อันนี้ก็แล้วแต่ไม้แบบที่เลือกใช้

สำหรับราคาไม้แบบที่ขายกันอยู่ในปัจจุบันนี้ อย่างหน้า 8 นิ้วราคาจะอยู่ที่แผ่นละ 300-400กว่าบาท ขึ้นอยู่กับความยาวที่ใช้งานด้วยครับ ส่วนไม้แบบหน้า 10 นิ้วราคาก็จะขึ้นอยู่กับความยาวของไม้แบบที่เราจะซื้อไปใช้งานด้วย  แต่ราคาในท้องตลาดจะอยู่ที่ 400 กว่าบาทขึ้นไป

แนวโน้มราคาไม้แบบ ในอนาคตจะประมาณกี่บาท
ปัจจุบันราคาไม้แบบ หน้า 8 นิ้ว และหน้า 10 นิ้ว ราคาปัจจุบันมันคิดที่ความยาวของไม้มากกว่า ว่าตอนที่ซื้อไปใช้ไม้แบบหน้าอะไรยาวกี่เมตร อย่างเช่น ไม้แบบหน้า 8นิ้วยาว 4เมตร ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 300-400 บาทต่อแผ่น และในอนาคตราคาไม้แบบจะเพิ่มขึ้นหลักร้อย หรือตามที่โรงงานไม้แปรรูปขายส่งให้ร้านค้าวัสดุก่อสร้างส่วนมากจะคิดเป็นคิวหรือลูกบาศก์ฟุต

ไม้แบบหน้าอะไรที่คนไทยนิยมมาใช้งานมากที่สุด
สำหรับไม้แบบหน้าที่คนไทย ช่างไทย หรือผู้รับเหมานิยมซื้อมาใช้ ไม้แบบที่นิยมใช้สำหรับงานก่อสร้างจะมี 2 ขนาดด้วยกัน คือ ไม้แบบหน้า 8 นิ้ว และหน้า 10 นิ้ว ซึ่งมันก็แล้วแต่หน้าเสาหรือขนาดของคานบ้านหรือเสาบ้านที่จะหล่อที่ใช้ ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับแบบของบ้านมากกว่า

ไม้แบบที่ดีดูได้จากอะไร
ไม้แบบที่ดีที่สามารถใช้งานสำหรับทำแบบได้ดี  สามารถเลือกได้จาก ไม้แบบต้องไม่งอตรงตรงตลอดตั้งแต่หัวไปกลางแผ่นและปลายแผ่น ไม่บิดและไม่งอ และไม่เปียกชื้นไม่มีมอดกินไม้ ไม่ผุไม่หักไม่บิ่น อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้อยู่ตลอดเวลา

เหล็กข้ออ้อย

เหล็กข้ออ้อย ปทุมธานี

เหล็กข้ออ้อย

เหล็กข้ออ้อย เป็นเหล็กเส้นใหญ่สเปคใหญ่สุดในบรรดาเหล็กเส้นด้วยกัน ใช้สำหรับงานก่อสร้างหรืองานคอนกรีตที่ต้องรับน้ำหนักมากที่สุด เช่น งานอาคารขนาดใหญ่ งานถนนคอนกรีตที่ต้องรับน้ำหนักรถวิ่งอยูตลอดเวลา เหล็กข้ออ้อยมีขนาดตั้งแต่ 4 หุนอ้อย , 5 หุนอ้อย , 6 หุนอ้อย 1นิ้วอ้อย มีทั้งแบบเหล็กอ้อยเบา และเหล็กอ้อยโรงใหญ่

เหล็กข้ออ้อย คือ อะไร

เป็นเหล็กที่มีครีบและบั้งที่ผิวเหล็ก ซึ่งหน้าที่ของครีบและบั้งคือ ช่วยให้เหล็กยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี ทำให้โครงสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กมีความแข็งแรง เป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนมากมักจะใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงให้กับคอนกรีต เช่น คาน เสา พื้นถนน สะพาน เขื่อน บ้าน อาคาร และงานก่อสร้างที่มีแรงอัดมากๆ เป็นต้น โดยเหล็กเส้นข้ออ้อยจะมีหลายขนาดและหลายความสามารถในการรับแรง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานแตกต่างกัน เช่น เหล็กเส้นข้ออ้อย SD30 SD40 SD40S และ SD50

เหล็กข้ออ้อย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Deformed Bars

เหล็กข้ออ้อย มีประโยชน์อย่างไร

ประโยชน์ของเหล็กข้ออ้อยก็คือ เป็นเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ในการก่อสร้างแต่ละครั้งยังต้องมีการใช้งานควบคู่กับเหล็กเส้นกลมด้วย โดยทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของวิศวกรประจำโครงการ แต่ส่วนมากจะใช้เหล็กข้ออ้อยเป็นหลัก เพราะรับแรงได้ดีกว่าเหล็กเส้นกลม และเหล็กข้ออ้อย เป็นเหล็กที่มีแรงยึดเกาะที่ผิวสูง เหมาะสำหรับงานคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ต้องการความแข็งแรงสูงเช่น เขื่อน, สะพาน หรืองานก่อสร้างใดๆ ที่ต้องรับแรงอัดมากๆ และตึกที่มีความสูงมาก

การเลือกซื้อเหล็กข้ออ้อยที่ดี ดูได้จากอะไรบ้าง

หลักการพื้นฐานในการเลือกซื้อเหล็กข้ออ้อย ควรจะมีป้ายบอกรายละเอียดติดไว้ให้ชัดเจน เพื่อบอกข้อมูลที่สำคัญ ๆ ได้แก่

  • เครื่องหมาย มอก.
  • ขนาด
  • ความยาว
  • บริษัทผู้ผลิต ประเภทสินค้า
  • ชั้นคุณภาพ
  • วันเวลาที่ผลิต

เหล็กข้ออ้อย

การนำเหล็กข้ออ้อยไปใช้งาน  

เหล็กข้ออ้อยจะนำไปใช้งานประเภทงานเสา คาน บันได รวมไปถึงบ่อและสระน้ำ สระว่ายน้ำต่าง ๆ โดยเหล็กข้ออ้อยที่ดีจะต้องมีระยะบั้งหรือครีมที่เท่ากันเสมอกัน ราคาเริ่มต้นที่ร้อยกว่าบาทและขนาดใหญ่ที่สุดคือ 1นิ้วอ้อย จะอยู่ที่เส้นละ 600-700 กว่าบาท ราคาเหล็กจะเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นประจำทุกเดือน หรือเกือบทุกสัปดาห์ หากผู้รับเหมาหรือช่างก่อสร้างจะซื้อเหล็กข้ออ้อยมาใช้ ควรสอบถามราคาก่อนและควรสอบถามราคาจากหลาย ๆ ร้าน

แนวโน้มราคาเหล็กข้ออ้อย 

ต้องยอมรับว่าราคาเหล็กในวันนี้กับเมื่อ 10กว่าปีก่อนราคาเหล็กสูงขึ้นเป็นเท่าตัวเอาป็นเหล็ก 2 หุนลายหรือ 2 หุนเบา เมื่อ 18 ปีก่อนราคาเส้นละ 19 บาท แต่ปัจจุบันราคาเส้นล่ะ 38 บาท บางร้านหรือบางแห่งขายเส้นละ 40 บาทด้วยซ้ำไป และเหล็กข้ออ้อยรุ่นเล็กสุดคือ 4 หุนอ้อยโรงใหญ่ เส้นล่ะ 100กว่าบาทแล้ว แต่จะสวนทางกันระหว่างเหล็กเส้นกับปูนนะครับ ถ้าราคาปูนขึ้นราคาเหล็กจะลง หรือเหล็กสูงขึ้นราคาปูนจะลงหรือคงที่ไม่ปรับลง

เหล็กข้ออ้อยที่คนไทยนิยมมาใช้งานมากที่สุด

เหล็กข้ออ้อยขนาดที่ช่างไทยหรือผู้รับเหมาไทยนิยมใช้ที่สุด ก็คือ เหล็ก 4 หุนอ้อย สำหรับเหล็ก 4 หุนอ้อย จะมีขนาดตั้งแต่ 10 มิล ไล่ไปจนถึงขนาด 4 หุนอ้อยโรงใหญ่เลยทีเดียว ราคาตกเส้นละ 100 กว่าบาทไม่เกิน 200 บาทนะครับ มีทั้งแบบงอและแบบเส้นตรง ถ้าใช้เส้นตรงแนะนำให้สั่งจากโรงงานหรือสั่งจากร้านวัสดุก่อสร้างการเลือกใช้เหล็กข้ออ้อยเส้นตรงก็เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเอาเหล็กเส้นที่งอหรือพับแล้วมาดัดให้เหล็กมันตรงอีกด้วย

เหล็กข้ออ้อยที่ดีต้องมีมาตรฐานอะไร

  • เหล็กข้ออ้อยที่ดีควรผลิตจากเตา EF เป็นเตา EF สามารถควบคุมส่วนประกอบทางเคมีได้อย่างแม่นยำ เหล็กที่ได้จึงมีคุณภาพสูง แข็งแกร่งเหมาะกับงานก่อสร้าง พร้อมทั้งส่งผ่านแรงได้ดี ดังนั้น เหล็กข้ออ้อยที่เลือกใช้จึงควรผลิตจากเตา EF
  •  ผ่าน มอก.รับรองความปลอดภัย เหล็กเส้นข้ออ้อยจะต้องผ่านมาตรฐานเหล็กเส้นฉบับใหม่ พ.ศ. 2559 จากมอก. 24-2548 เป็นมอก.24-2559

การเลือกใช้งานเหล็กข้ออ้อย
การเลือกใช้งานเหล็กข้ออ้อยเป็นหลัก เนื่องจากรับแรงหรือน้ำหนักได้ดีกว่า , ในเสาแนวตั้ง จะใช้เหล็กข้ออ้อยเป็นเหล็กยืน และตั้งตลอดแนวเสา และใช้เหล็กเส้นกลมเป็นเหล็กปลอกรัดรอบเหล็กยืนเป็นระยะ ๆ , ในคานแนวนอน จะใช้เหล็กข้ออ้อยเป็นเหล็กนอน และใช้เหล็กเส้นกลมเป็นหลัก ปลอกรัดรอบเหล็กนอกเป็นระยะ ๆ

สำหรับการเลือกใช้ชนิดของเหล็กเส้นข้ออ้อย SD30, SD40, และ SD50 ขึ้นอยู่กับชนิดของโครงสร้างเป็นสำคัญ ลักษณะของเหล็กเส้นข้ออ้อยที่ดี ต้องมีระยะบั้งที่เท่ากันและสม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น ไม่มีสนิมรอยตำหนิ ไม่มีรอยปริและแตกร้าว ความยาวโดยปกติที่ขายกันในท้องตลาด คือ 10 ม. แต่อาจจะสั่งพิเศษ เช่น 12 ม. หรือมากกว่านั้นก็ต้องสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ

เหล็กข้ออ้อย โรงใหญ่จะราคาแพงที่สุดในบรรดาเหล็กข้ออ้อยทั้งหมด บางครั้งช่างก่อสร้างหรือผู้รับเหมาจะเลือกใช้เหล็กข้ออ้อย น้ำหนักเบา ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าเหล็กข้ออ้อยเต็ม โรงใหญ่ แต่เป็นเหล็กข้ออ้อยเหมือนกัน ซึ่งใช้ในการทำงานได้เหมือนกัน

เหล็กเส้น คืออะไร

ในการก่อสร้างบ้านแต่ละหลัง หรืออาคารพาณิชย์ ตึกแถว คอนโดมิเนียม ต้องมีเหล็กเส้น เป็นส่วนประกอบหรือเป็นส่วนเสริมเพื่อให้งานก่อสร้างสำเร็จไปได้ด้วยดี และเหล็กเส้นมีตั้งแต่เหล็กเบา เหล็กเส้น SR โรงใหญ่และโรงเล็ก และมีเหล็กข้ออ้อยอีกด้วย ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและลักษณะในการใช้งานว่าเหล็กขนาดกี่หินกี่มิลใช้สำหรับงานประเภทไหนงานอะไร

เหล็กเส้น คือ อะไร
เหล็กเส้น ก็คือ เหล็กเสริมใช้สำหรับงานก่อสร้างบ้านเรือน อาคาร คอนโด หรือสำหรับเสริมงานคอนกรีต งานถนน งานสะพานต่างระดับที่ต้องใช้เหล็กเส้นใหญ่ ๆ พวกเหล็กข้ออ้อย เหล็กเส้นเบาหรือเหล็กเส้นเต็มจะใช้งานต่างกันไป และขึ้นอยู่กับความจำเป็นของเนื้องานที่จะใช้ หรือว่าเจ้าของต้องการให้งานคงอยู่กี่ปีเท่านั้นเอง

เหล็กเส้น ชื่อ ภาษาอังกฤษ ว่า Rebar

เหล็กเส้นมีประโยชน์อย่างไร
สำหรับประโยชน์ของเหล็กเส้นมีมากมาย  ถ้าให้บอกประโยชน์คงต้องไล่ไปตั้งแต่เหล็กเส้นเล็กหรือเหล็ก 2 หุนลายกันก่อน ซึ่งเหล็ก 2 หุนลาย เอามาทำหนวดกุ้ง เอามาดัดแล้วเอามาทำปอกคานเสา คานบ้านได้อีกด้วย และเหล้กเส้น SR ไม่ว่าจะโรงเล็กหรือโรงใหญ่ สามารถทำให้บ้านทำให้คานบ้านเสาบ้านของเราแข็งแรง เมื่อเราใช้เหล็กเส้นเต็มในการก่อสร้างบ้านแล้ว บ้านของเราจะสามารถอยู่ได้ชั่วลูกชั่วหลาน โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินหาช่างมาซ่อมแซมบ้านของเราไปอีกนานเลยทีเดียว เพราะเราตัดสินใจใช้เหล็กเส้นเต็มตั้งแต่ตอนทำโครงสร้างบ้านแตกแรกแล้ว

ส่วนเหล็กข้ออ้อยไม่ว่าจะ 4 หุนอ้อย หรือ 5 หุนอ้อย ไปจนถึงขนาด 1 นิ้วอ้อย ส่วนมากจะเป็นงานหลวงซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลวง ถนน หรือสำนักงานล้วนแต่ใช้เหล็กเส้นเต็ม และยังมี มอก.รับรองอีกด้วย เพื่อให้ตรงสเปคกับงานที่ว่าจ้าง ถ้าไม่ตรงสเปคเวลาตรวจรับงาน งานที่ทำออกมาจะไม่ผ่านได้

เหล็กเส้นเอาไปใช้งานแบบไหน
เหล็กเส้นแต่ละขนาดมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานต่างกันนะครับ เช่น เหล็ก 2 หุนเบา หรือ 2 หุนลาย เอาไปทำหนวดกุ้ง , ดัดทำปอกเสาปอกคานได้ และยังเอาไปทำตะแกรงเหล็กแทนไวร์เมชสำหรับเทถนนได้ หรือเอาเหล็ก 3 หุนไปเสียบใส่กับเสา หรือเอาเหล็ก 4 หุนอ้อยไปทำตอม่อ อาคาร เพื่อความแข็งแรงได้

ปัจจุบันเหล็กเส้นราคาส่วนใหญ่ในท้องตลาดประมาณกี่บาท
ราคาเหล็กเส้นในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากเมื่อ 20 ปีก่อน เหล็ก 2 หุนลายเส้นละ 19 บาท ปัจจุบันเหล็ก 2 หุนลายตกเส้นละ 38 บาทเกือบ ๆ 40 บาทเลยทีเดียว ถ้าเป็นบ้านของเราเองแนะนำให้ใช้เหล็ก 2 หุน SR โรงใหญ่ไปเลยครับ เพราะบ้านเราอยู่เองไม่ต้องประหยัดงบประมาณ ดีกว่าต้องมาซ่อมแซมในภายหลังถ้าบ้านร้าว และราคา 4 หุนอ้อย โรงใหญ่ ตอนนี้ก็แพงอยู่พอสมควร เส้นนึงเกือบ 200 บาทเลยทีเดียว

แนวโน้มราคาเหล็กเส้นในอนาคตจะประมาณกี่บาท
สำหรับราคาเหล็กเส้น หากจะบอกว่าให้จับตามองเป็นเดือน ๆ ไป หรือใครจะปลูกบ้านหรือต่อเติม สำหรับงานต่อเติมเล็กน้อยไม่เยอะมากมายอะไร ก็สามารถตัดใจซื้อเหล็กเส้นเต็มโรงใหญ่ไปได้ เส้นนึงร้อยกว่าบาท ถือว่าไม่ได้แพงอะไร หรือจะปลูกบ้านใหม่สัก 1 หลัง แนะนำว่าให้เช็คราคาแต่ละร้านแล้วเลือกเอาร้านที่ราคาดีที่สุด แนะนำว่าเลือกเป็นเหล็กเส้นเต็มโรงใหญ่ สำหรับราคาเหล็กเส้นแนะนำว่าให้เช็คทุกเดือนสำหรับช่างที่รับเหมา แต่ถ้าจะได้ราคาแน่นอน ควรจะเช็ครายอาทิตย์น่าจะชัวร์กว่า

เหล็กเส้นขนาดไหนที่คนไทยนิยมมาใช้งานมากที่สุด
เหล็กเส้นไซส์ไหน ขนาดไหนที่ช่างหรือผู้รับเหมานิยมใช้ พวก เหล็ก 2 หุนลาย , เหล็ก 3 หุน , เหล็ก 4 หุนอ้อย 3 ขนาด 3 ไซส์  ปัจจุบันร้านค้าวัสดุก่อสร้างนิยมลงติดร้านเอาไว้เพื่อจำหน่ายแก่ช่าง แต่การหาลูกค้าที่จะซื้อวัสดุเพื่อปลูกบ้าน 1 หลังในร้านเดียวค่อนข้างลำบาก ด้วยภาวะเศรษฐกิจแบบนี้แล้วยิ่งมาเจอไวรัสโควิด-19 เล่นงานซ้ำเข้าไปอีก คนส่วนใหญ่มีแต่หาซื้อวัสดุเพื่อไปต่อเติมและซ่อมแซมบ้านเป็นส่วนใหญ่

เหล็กเส้นที่ดีต้องมีมาตรฐานอะไร
เหล็กเส้นต้องมี มอก.ติดที่ตัวเหล็กเส้นเลย หรือเป็นเหล็กบลส. ซึ่งจะมีติดอยู่กับตัวเหล็ก ลงไปดูตามร้านค้าวัสดุก่อสร้างได้ครับ ว่ามีเครื่องหมายนี้ติดอยู่หรือเปล่า หรืองานก่อสร้างพวกงานราชการงานหลวงก็สามารถขอหนังสือรับรอง มอก.จากผู้ผลิตผู้จำหน่ายได้เช่นกัน

 

คลิกติดต่อสั่งซื้อสินค้า

สินค้าแนะนำ

 

เหล็กกล่องคืออะไร

เหล็กกล่อง มี ชื่อ ภาษาอังกฤษ ว่า  STEEL TUBE
เหล็กกล่อง คือ  เหล็กรูปพรรณชนิดหนึ่ง แบบเป็นเหล็กกล่องสองแบบ คือ เหล็กกล่องแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสและเหล็กกล่องแบบเหล็กกล่องเหลี่ยม เหล็กกล่องรูปพรรณรีดร้อน มักนำมาใช้ทำโครงสร้างหลังคาบ้านเพื่อรองรับน้ำหนัก รองรับน้ำหนักจากกระเบื้องหลังคาบ้าน งานแปหลังคา งานประกอบทรัสทั่วไป มีขนาดมาตรฐานเริ่มต้นตั้งแต่ 12x12x0.6 มม. มีความยาว 6 เมตร บางครั้งเรียกในท้องตลาดว่า แป๊บโปร่ง กล่อง เหล็กกล่อง เหล็กหลอดเหลี่ยม เหล็กรูปพรรณเหล่านี้ ทำให้งานก่อสร้างเสร็จได้รวดเร็วกว่างานคอนกรีต และทำให้ได้งานโครงสร้างที่มีช่วงกว้างกว่า และมีน้ำหนักเบากว่า เช่น โครงสร้างงานอุตสาหกรรม สะพาน อาคารสูง ฯลฯ เหล็กรูปพรรณผลิตออกมามีหลายหน้าตัด ส่วนประกอบสำคัญทางเคมีได้แก่ คาร์บอน แมงกานีส ฟอสฟอรัส และกำมะถัน

เหล็กกล่องมีประโยชน์อย่างไร

  • น้ำหนักเบา
  • แข็งแรง ทนทาน
  • มีความยืดหยุ่นสูง ลดการเสียรูปอย่างถาวร
  • ก่อสร้างได้ง่าย รวดเร็ว
  • ราคาไม่แพง
  • สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานก่อสร้างได้หลากหลายรูปแบบ เช่น บ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ โครงสร้างหลังคา ทำงานเหล็ก โรงจอดรถ เป็นต้น

หล็กกล่องเอาไปใช้งานแบบไหน สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย มีประโยชน์มากมายในงานก่อสร้างโดยเฉพาะงานโครงสร้างต่าง ๆ ที่ต้องการความแข็งแรงทนทานสูง เนื่องจากเหล็กกล่องมีความยืดหยุ่น ไม่เสียรูปอย่างถาวร อีกทั้งยังเป็นวัสดุที่ก่อสร้างได้ง่าย ทำให้งานก่อสร้างเสร็จได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงมีต้นทุนที่ไม่สูงมากนัก จึงเป็นที่นิยมในการนำมาสร้างที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ ไปจนถึงงานโครงสร้างหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว

ปัจจุบันเหล็กกล่องราคาส่วนใหญ่ในท้องตลาดประมาณกี่บาท

ความหนา 1.2 มม. ขนาด ½ x ½ นิ้ว จะมีราคาประมาณ 90 บาท
ความหนา 2.0 มม. ขนาด 1½ x 1½ นิ้ว จะมีราคาประมาณ 260 บาท
ความหนา 2.0 มม. ขนาด 3 x 3 นิ้ว จะมีราคาประมาณ 570 บาท เป็นต้น

แนวโน้มราคาเหล็กกล่องในอนาคตจะประมาณกี่บาท
สำหรับราคาเหล็กกล่องในท้องตลาดบ้านเรา จะสวนทางกับราคาปูนซีเมนต์ถ้าปูนถูกเหล็กเส้นหรือเหล็กรูปพรรณราคาจะแพง ต้องเช็คเป็นเดือน ๆ ไปสำหรับใครจะปลูกบ้านหรือช่างที่จะรับเหมาก่อสร้างบ้าน
ความหนา 1.2 มม. ขนาด ½ x ½ นิ้ว จะมีราคาประมาณ 90 บาท
ความหนา 2.0 มม. ขนาด 1½ x 1½ นิ้ว จะมีราคาประมาณ 260 บาท
ความหนา 2.0 มม. ขนาด 3 x 3 นิ้ว จะมีราคาประมาณ 570 บาท เป็นต้น

เหล็กกล่องไซส์ไหนที่คนไทยนิยมมาใช้งานมากที่สุด
สำหรับเหล็กกล่องที่นิยมใช้ช่างนิยมใช้เจ้าของบ้านนิยมใช้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานมากกว่า ว่าขนาดของเหล็กกล่องนั้นเอาไปใช้ทำอะไร เอาไปต่อเติมส่วนไหนของบ้าน แต่เหล็กกล่องขนาด 1x1x1.2 มิล , 1x1x1.5 มิล , 2x2x1.2 , 2x2x1.5 มิล หรือจะเป็นขนาด 4x2x.15 มิล 4 ขนาดนี้จะนิยมใช้ในหมู่ช่างของไทย

เหล็กกล่องที่ดีต้องมีมาตรฐานอะไร
การเลือกซื้อหรือเลือกใช้สามารถดูมาตรฐาน ดูขนาดของเหล็กกล่อง ได้ดังนี้

  • เหล็กกล่องต้องมีคุณภาพ SS400
  •  เหล็กที่ผลิตต้องได้เต็มนิ้ว เต็ม มม. ที่กำหนด ต้องดูที่น้ำหนักจริง ไม่ใช่เพียงแต่ดูที่ความหนา
  • เหล็กกล่องต้องได้ฉาก มีความยาวต้อง 6 ม. เต็ม
  • ต้องมีใบรับรองมาตรฐาน มอก. เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพสินค้า

ก่อนซื้อเหล็กกล่องต้องรู้อะไรบ้าง
1.น้ำหนักของเหล็กกล่องแต่ละเส้น ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อเหล็กกลอ่งแต่ละเส้นแต่ละขนาดควรสอบถามน้ำหนักเหล็กกล่องให้แน่ใจก่อนว่าน้ำหนักตรงตามที่เราต้องการหรือเปล่า
2.ความยาวของเหล็กกล่อง เราควรตรวจสอบความยาวของเหล็กกล่องตามมาตรฐานที่สั่งซื้อเอาไว้
3.วัตถุดิบตั้งต้นที่นำมาทำเหล็กกล่อง ควรสอบถามกับทางร้านถึงวัตถุดิบตั้งต้นที่นำมาผลิตเหล็กกล่อง
4.ราคาของเหล็กกล่อง เหล็กกล่องแต่ละโรงงานมีน้ำหนักไม่เท่ากัน เราจึงควรสอบถามราคาของเหล็กกล่อง ก่อนที่จะสั่งซื้อ

เหล็กกล่องเกรดบี
เหล็กกล่องเกรดบีที่ใช้วัตถุดิบเดียวกับเหล็กรูปพรรณเกรดเอ มีความยาว 6 เมตรเต็ม ซึ่งเหล็กเกรดบีจะแตกต่างกับเหล็กเกรดเอตรงที่ว่า เหล็กเกรดบีจะมีตำหนิเล็กน้อยตรงรอยต่อ เนื่องจากการเชื่อมต่อของสลิด เพื่อให้ได้ความยาวครบ 6 เมตรและยังนำมาแทนเหล็กเกรดเอได้ เพราะแบบนี้เหล็กเกรดบีถึงได้รับความนิยมในงานก่อสร้าง ต่อเติม และงานซ่อมแซม เนื่องจากเหล็กเกรดบีมีราคาถูกกว่าเหล็กเกรดเอค่อนข้างมาก
เหล็กเกรดบีให้ประโยชน์มากมายในอุตสาหกรรมก่อสร้างมาโดยตลอด เนื่องจากเหล็กเกรดบีสามารถประดิษฐ์ และนำไปใช้ในโครงการก่อสร้างจำนวนมากได้ ในแง่ของโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่สำคัญ อย่างเช่น สนามกีฬา ห้างสรรพสินค้า และอาคารพาณิชย์ เป็นต้น เมื่อมีการพัฒนาอาคาร หรือ โครงสร้างหลัก เหล็กเกรดบีเป็นโครงสร้างแรก ๆที่ผู้รับเหมาจะเลือกใช้เป็นอันดับแรก เนื่องจากเหล็กเกรดบีสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้โดยไม่มีผลกระทบต่อคุณสมบัติของเหล็กเกรดบีอีกด้วย

ข้อดีของเหล็กเกรดบี

  • มีความทนทานแข็งแรง
  • ราคาถูกกว่าเหล็กเกรดเอ
  • นำไปใช้งานโครงสร้างได้ เหมือนเหล็กเกรดเอ
  • สามารถนำมาใช้ซ้ำได้
  • มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  • ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานอุตสาเหกรรม

 

คลิกติดต่อสั่งซื้อสินค้า

สินค้าแนะนำ

กระเบื้องลอนคู่ ตราโอฬาร

กระเบื้องลอนคู่
มีลักษณะเป็นลอนห่าง เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และการระบายน้ำได้ดี กระเบื้องมีน้ำหนักเบา เหมาะในการติดตั้งใช้งานง่าย กระเบื้องสีทุกแผ่น เคลือบด้วยสีพิเศษ 3 ชั้น ทนต่อทุกสภาวะอากาศให้สีสวยสดและเงางาม ไม่มีมลภาวะต่อธรรมชาติตลอดอายุการใช้งาน

 

กระเบื้องลอนคู่ โอฬาร จะมีสีให้เลือกทั้งหมด 4 ประเภท 

สีมาตรฐาน

สีพิเศษ

สีดับเปิ้ลโทน

สีเมทาลิค

ครอบกระเบื้องลอนคู่ Roman Tile Roof Ridge Accessories

การติดตั้งหลังคา ตราโอฬาร รุ่นลอนคู่ ต้องตัดมุมประเบื้องลอนคู่ และมุงแบบไม่สลับแผ่น เพื่อให้กระเบื้องซ้อนทับกันสนิท ทำหใ้หลังคาดูสวยงาม และขจัดปัญหาการรั่วซึมตามผังการตัดมุมกระเบื้องลอนคู่

 

เครดิต
https://www.oranvanich.co.th/

โครงสร้างบ้านแบบเหล็ก และ โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ควรเลือกแบบไหนดี

วัสดุที่นิยมเลือกปลูกสร้างโครงสร้างบ้านจากอดีตก็จะเป็นโครงสร้างไม้ แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงมาเป็น โครงสร้างบ้านแบบคอนกรีตบ้าง หรือไม่ก็โครงสร้างแบบเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงและการเสื่อมสภาพน้อยกว่าโครงสร้างแบบไม้

วันนี้จะพาไปแนะนำข้อดี ข้อด้อย ของโครงสร้างแบบ คอนกรีต และ แบบเหล็ก ว่ามีข้อดี ข้อด้อย ต่างกันอย่างไร

โครงสร้างแบบเหล็ก
ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่เบื่อบ้านปูนและบ้านไม้กัน โครงสร้างแบบเหล็กปัจจุบันสามารถสร้างบ้านได้เกือบทั้งหลัง โดยนำมาเชื่อมต่อกันเป็นเสา คาน โครงรับพื้น โครงหลังคา และโครงผนัง ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปร่างหน้าตัด เช่น สี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า เหล็กรูปตัวซี เหล็กตัวซีรางน้ำ เหล็กฉาก  ซึ่งจุดเด่นของเหล็กคือ เป็นวัสดุสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานมาอยู่แล้ว จึงได้มาตราฐานดีกว่าปูนหรือไม้ อีกทั้งยังประหยัดเวลาการก่อสร้างได้ดีกว่างานคอนกรีตเสริมเหล็กเท่าตัวเลยทีเดียว

ข้อดี

  • ประหยัดเวลาในการก่อสร้าง โครงสร้างถูกผลิตมาจากโรงงานแล้ว พอถึงหน้างานจึงเสมือนแค่ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เท่านั้น
  • มีความแข็งแรงไม่ต่างกับโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กเท่าไหร่
  • สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปลูกสร้างได้ง่ายกว่า
  • เสาคานเหล็กมีขนาดเล็กทำให้ภายในบ้านโล่งกว้างไม่มีส่วนของเสาหรือคานโผล่ซึ่งทำให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย
  • การเดินระบบอย่าง เดินท่อประปา เดินท่อร้อยสายไฟ สามารถทำได้ง่าย

ข้อด้อย

  • งบประมาณค่อนข้างสูง เนื่องด้วยวัสดุมีราคาสูง ทำให้ต้นทุนวัสดุมีราคาแพงกว่าบ้านที่ก่อด้วยวัสดุอื่นประมาณ 30%
  • บริษัทที่รับสร้างมีไม่ค่อยเยอะ ช่างผู้เชี่ยวชาญยังหาได้ค่อนข้างยาก
  • ความยากของการสร้างบ้านโครงสร้างเหล็กคือ การเชื่อม จำเป็นต้องให้ช่างที่มีความชำนาญสูงในการดูแลงาน
  • มีค่าบำรุงรักษาระยะยาว ค่าทาสี ป้องกันสนิม

บ้านโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก

ถือเป็นที่นิยมมานานเพราะวัสดุที่หาได้ง่ายและมีราคาถูกกว่าการโครงสร้างแบบอื่นๆ มีส่วนประกอบหลักคือ ปูนซีเมนต์ หิน กรวดหรือทราย และน้ำ และเสริมด้วยเหล็กเข้าไป เพราะคอนกรีตมีคุณสมบัติในการรับแรงอัดได้ดี แต่รับแรงดึงได้ค่อนข้างต่ำมาก จึงจำเป็นต้องเสริมเหล็กเข้าไปเพื่อเพิ่มคุณสมบัติแรงดึง ทำให้รับแรงของวัสดุโดยรวมได้มากยิ่งขึ้น   เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยและอาคารทั่วไป

ข้อดี

  • มีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าบ้านโครงสร้างเหล็ก
  • ทั้งปูนซีเมนต์ หิน กรวด ทราย เป็นวัสดุที่มีราถูกกว่าโครงสร้างเหล็ก จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างดี
  • ผู้รับเหมาและช่างที่ชำนาญอยู่มากพอสมควร จึงไม่เป็นเรื่องยุ่งยากในการติดต่อหาช่างมารับงาน
  • การดูแลรักษาง่ายกว่าและถูกกว่าโครงเหล็ก ทั้งยังมีวิธีแก้ไขที่ไม่ยุ่งยาก รวดเร็วกว่า

ข้อด้อย

  • แม้ปัจจุบันจะคอนกรีตสำเร็จรูปที่ช่วยประหยัดเวลาการก่อสร้าง แต่ถ้าเทียบกับโครงสร้างเหล็กแล้วก็ยังใช้ระยะเวลาการก่อสร้างมากกว่าอยู่ดี
  • ต้องใช้เวลานานในการก่อสร้าง ค่าแรงช่างจึงแพงตามระยะเวลาการก่อสร้าง
  • เมื่อมีงานต่อเติมจะค่อนข้างยุ่งยากกว่างานโครงสร้างเหล็ก
  • เมื่อมีน้ำหนักมาก จึงจำเป็นต้องใช้เสาเข็มจำนวนมากในการรับน้ำหนัก ค่าวัสดุก็เพิ่มมากขึ้น

 

โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กหรือโครงสร้างเหล็ก ทั้ง 2 อย่างมีข้อดีและข้อด้อยต่างกันไป เราควรจะคำนึงถึงเรื่องงบประมาณ การดูแลรักษาหลังจากสร้างเสร็จ หรือด้านการออกแบบ ว่าตัวเราเหมาะกับแบบไหนมากกว่ากัน ที่จะทำให้เราจัดการได้ง่ายในอนาคตและปัจจุบัน

 

เครดิต
https://www.baanlaesuan.com/

เทคนิคเลือกสีให้บ้านเย็นสบาย

เทคนิคการเลือกใช้สีทาบ้านให้เย็นสบาย
เมื่ออากาศเมืองไทยค่อนข้างจะร้อน เราจะมีวิธีการเลือกสีทาบ้านอย่างไรให้บ้านเราดูเย็นสบาย คลายร้อนผ่อนคลาย วันนี้มีเทคนิคการเลือกสีทาบ้านเพื่อลดความร้อนมาให้อ่าน

1. เลือกสีทาบ้านสะท้อนรังสีความร้อน เลือกทาสีประเภทสีกันร้อนสะท้อนยูวีที่มีเม็ดเซรามิคช่วยสะท้อนความร้อนได้ ปัจจุบันมีสีหลายยี่ห้อที่ผลิตและจำหน่ายสีที่มีประสิทธิภาพในการสะท้อนรังสีความร้อน

2. สีทาภายนอกเลือกสีอ่อน นอกจากเลือกสีที่ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนแล้ว สีทาภายนอกควรเลือกสีโทนเย็น หรือสีอ่อนๆ จะสะท้อนความร้อนไม่ให้เข้าไปในตัวบ้านได้ดีกว่าสีโทนมืดหรือสีโทนร้อนที่ดูดซับความร้อนได้มากกว่า

3. สีทาภายในเลือกสีโทนเย็น เลือกใช้สีโทนเย็นภายในบ้าน เลือกใช้สีอ่อนๆ ประเภทสีขาว สีครีม สีเขียวอ่อน สีเหลืองอ่อน สีฟ้าอ่อน ซึ่งสีโทนเย็นจะให้ความรู้สึกเย็นตา ผ่อนคลาย สดชื่น ช่วยให้รู้สึกเย็นกายเย็นใจได้ เพราะสีมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

 

 

เครดิต

Home

ครัวปูน ครัวสำเร็จรูป และครัวบิวท์อิน แตกต่างกันอย่างไร

ห้องครัวถือว่าเป็นห้องที่สำคัญอันดับต้นๆ ของคนไทย การที่เราจะทำห้องครัวขึ้นมาสักห้องเราควรพิจารณาว่าเราจะทำอาหารเยอะมากน้อยขนาดไหนพื้นที่เรามีจำกัดหรือไม่ เพราะเป็นสิ่งที่เราจะต้องนำมาพิจารณาก่อนที่จะสร้างห้องครัว
การสร้างห้องครัวมีให้พิจารณา 3 แบบ 1.สร้างครัวโดนปูน หรือก่ออิฐขึ้นมา 2.หาซื้อครัวสำเร็จรูปมาลงที่บ้าน หรือ 3.จ้างช่างมาบิวท์อินครัวให้ตามที่เราต้องการ
เรามาดูข้อดี ข้อสังเกต แต่ละแบบกันว่าแบบไหนเหมาะสมกับเรา

1.เคาน์เตอร์ครัวปูน หรือ ครัวก่ออิฐ ซึ่งนิยมสร้างครัวประเภทนี้กันในที่อยู่อาศัยแบบแนวราบเช่น บ้านหรือทาวน์เฮ้าส์ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ เพราะด้วยโครงสร้างที่เป็นการก่ออิฐฉาบปูน ทำให้มีความแข็งแรงกว่าครัวบิวท์อินและครัวสำเร็จรูปทั่วไป

นอกจากความแข็งแรงแล้ว ครัวประเภทนี้ยังทนความชื้นได้เป็นอย่างดีเลยครับ อีกทั้งราคายังถูกกว่าครัวแบบสำเร็จรูปอีกด้วย

ข้อดี มีความแข็งแรง ทนทาน ทนน้ำและความชื้น มอด ปลวก ใช้งานได้ยาว ราคาในการก่อสร้างถูกกว่าครัวแบบอื่นๆ
ข้อสังเกต เมื่อก่อสร้างแล้วจะปรับเปลี่ยนยาก ต้องทุบออก และอาจเกิดกลิ่นอับได้ แต่ก็สามารถแก้ไขด้วยการปูกระเบื้อง

2.ครัวสำเร็จรูป ครัวประเภทนี้จะเป็นลักษณะครัวที่ทางแบรนด์มีสินค้าอยู่แล้ว แต่ทำขึ้นมาให้มีหลายรูปแบบและหลายขนาดมักจะทำด้วยวัสดุไม้ ลามิเนต pvc เป็นต้น ซึ่งครัวแบบนี้มักจะเผื่อพื้นที่การใช้งานมาให้แบบครบครันและเป็นสัดส่วน และใช้เวลาในการติดตั้งเร็ว แต่จะมีให้ขนาดให้เลือกแบบจำกัด เจ้าของบ้านต้องวัดขนาดพื้นที่ให้ดีก่อนที่จะซื้อ

ข้อดี ติดตั้งง่าย รวดเร็วไม่ยุ่งยาก และสามารถเคลื่อนย้ายได้ ฟังก์ชั่นการใช้งานเยอะ
ข้อสังเกต หากเป็นไม้หรือลามิเนต มีโอกาสเสียหายจากความชื้น มอด ปลวก และมีความแข็งแรงน้อยกว่าครัวปูน มีแบบขนาดจำกัดซึ่งอาจไม่พอดีกับขนาดครัวเรา ราคาสูงกว่าครัวปูน

3.ครัวบิวท์อิน เป็นการออกแบบและติดตั้งเคาน์เตอร์ให้พอดี วางเข้ากับพื้นที่ภายในครัวได้อย่างลงตัว วัสดุที่มักจะนำมาใช้ก็จะมีหลากหลาย เช่น ลามิเนต ซีเมนต์บอร์ด PVC

ข้อดี ติดตั้งง่าย สะดวกรวดเร็วไม่ยุ่งยาก เลือกปรับขนาดได้ตามต้องการ สวยงามทันสมัย และมีแบบให้เลือกเยอะ
ข้อสังเกต ความแข็งแรงน้อยกว่าครัวปูน ราคาค่อนข้างสูง ต้องออกแบบและวัดตำแหน่งให้ดีก่อนซื้อ เพราะการแก้ไขทำได้ยากและอาจทำให้งบบานปลาย

 

เครดิต

หน้าแรก

เทคนิคการเลือกสว่านไฟฟ้าต้องรู้อะไรบ้าง

สว่านไฟฟ้า เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้เจาะวัสดุต่างๆ เช่น คอนกรีตปูน โลหะ ไม้ และพลาสติก ได้สะดวกและรวดเร็ว ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อสว่านไฟฟ้า ควรรู้ว่าต้องการสว่านเพี่อใช้งานกับอะไร ประเภทไหน งานหนัก งานเบา ใช้ซ่อมแซมตกแต่งบ้าน หรือใช้ทำลายถนนคอนกรีต สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อสว่านไฟฟ้า ควรจะรู้ข้อมูลต่างๆดังนี้

1. กำลังไฟ มีหน่วยเป็นวัตต์ จำนวนวัตต์สูงๆ นอกจากให้กำลังในการทะลุทะลวงสูงแล้ว ยังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานกว่า โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะร้อนเกิน แต่ก็กินไฟเยอะกว่าด้วย ส่วนสว่านไร้สาย กำลังไฟจะบอกเป็นโวลต์ ตัวเลขยิ่งสูง หมายถึง กำลังและน้ำหนักของแบตเตอรี่ที่มากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าแบตเตอรี่จะอยู่ได้นานกว่า เช่น หากอยากได้สว่านใช้งานทั่วไปในบ้าน งาน DIY กำลังไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 300 วัตต์ ซึ่งจะให้ความเร็วรอบในการเจาะงานประเภทต่างๆ ได้

2. อัตราความเร็วรอบ (RPM) สว่านชนิดที่มีอัตราเร็วรอบสูงจะสามารถเจาะได้เร็วกว่า แรงกว่า ควรเลือกสว่านที่สามารถปรับ ความเร็วได้หลายระดับ สำหรับใช้งานกับความแข็ง และอ่อนของวัสดุที่ต่างกัน

3. เส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดของการเจาะ ส่วนมากจะบอกรายละเอียดเป็นตัวเลขเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดที่สามารถเจาะคอนกรีต ไม้ เหล็กได้  ถ้าเป็นสว่านกระแทกและสว่านโรตารี มักบอกตัวเลขเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดของการเจาะคอนกรีตไว้ให้เห็นชัดเจน

4. อัตราการเจาะกระแทกต่อนาที (BPM หรือ IPM) คือ ค่าที่บ่งบอกความสามารถในการกระแทก สำหรับสว่านกระแทกและสว่านโรตารี

เครดิตข้อมูล
jenbunjerdstore.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า