แดดเข้าบ้าน บ้านร้อน แก้ยังไงดี

แดดเข้าบ้าน บ้านร้อน แก้ยังไงดี

แดดเข้าบ้าน บ้านร้อน แก้ยังไงดี

หนึ่งในปัญหาที่เจ้าของบ้านมักจะเจอเหมือนกันคือ ปัญหาบ้านร้อนเพราะโดนแดด ทำให้ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวันทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและค่าไฟ ซึ่งบทความนี้ผมจะมาพูดถึงวิธีการแก้ปัญหาบ้านร้อน หรือบ้านที่โดนความร้อนจากแสงแดดสาดเข้ามาไม่ว่าจะเป็นทางทิศตะวันตกในช่วงบ่าย หรือทิศตะวันออกในช่วงเช้าก็ตาม ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็อยู่ในสาเหตุของปัญหาเลยครับ ในเมื่อบ้านร้อนจากการโดนแสงแดดวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดคือการทำให้บ้านโดนแดดน้อยลง

แล้วจะมีวิธีไหนบ้างที่จะลดไม่ให้แดกกระทบหรือเข้ามาในตัวบ้านมากจนเกินไป

แดดเข้าบ้าน บ้านร้อน แก้ยังไงดี

1. ติดกันสาดที่ตัวบ้านด้านที่โดนแดด

นี้เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ง่ายและเร็วที่สุด ด้วยการดูมุมองศาทีแดดจะตกกระทบในช่วงเวลากลางวันและทำกันสาดออกไปจากตัวบ้านประมาณ 1-2 เมตร ซึ่งโดยปกติช่วงที่ร้อนที่สุดของวันก็จะเป็นช่วงเที่ยงถึงบ่าย อาจจะกะมุมองศาของกันสาดให้ดีแล้วปล่อยให้แดดอ่อนๆเข้าบ้านในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็นเท่านั้น ซึ่งการติดตั้งกันสาดสมัยนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีกันสาด DIY ที่ช่วยให้ติดตั้งได้ง่ายขายตามท้องตลาด สามารถซื้อ ดู คู่มือ แล้วติดตั้งด้วยตัวเองได้เลย

แดดเข้าบ้าน บ้านร้อน แก้ยังไงดี

2. ติดไม้ระแนงต่างและปรับมุมเพื่อให้ป้องกันแสงแดด

ซึ่งการติดตั้งตัวเจ้าของบ้านเองรู้อยู่แล้วว่าแดดจะเข้าทางไหน เพียงแค่บิดมุมระแนงนิดเดียวก็จะทำให้แดด ตกกระทบตัวบ้านน้อยลง ซึ่งข้อดีของการติดระแนงคือทำให้วิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นได้แทบจะไม่เปลี่ยนไป ทั้งยังไม่เป็นการปิดกั้นแสงแดด และลมจากทางทิศอื่นก็ยังสามารถผ่านเข้าทางช่องระแนงมาสู่ตัวบ้านได้เช่นกัน แต่ก็มีข้อควรระวังตรงที่ระแนงจะมีราคาสูงกว่ากันสาดและมีข้อจำกัดในการติดตั้งจะต้องมีการปรึกษาช่างหรือผู้เชี่ยวชาญ

3. ติดฉนวนกันความร้อน

กรณีนี้จะสำหรับบ้านที่ไม่สามารถติดได้ทั้งกันสาดหรือระแนง โดยการนำฉนวนกันความร้อนติดเข้าไปที่ตัวผนังบ้าน ควรวางแผนการติดตั้งตั้งแต่ตอนก่อสร้าง แล้วใช้อิฐมวลเบาในการก่อสร้าง มวลเบามีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันร้อนเช่นกัน ทำให้สามารถช่วยลดอุณหภูมิภายในตัวบ้านเวลาโดนแดดได้

4. หลีกเลี่ยงการเทพื้นคอนกรีต ในด้านที่มีการโดนแสงแดด

การเทพื้นคอนกรีตก็เป็น 1 ตัวเรื่องที่ทำให้บ้านดูสวยงามมากขึ้นและใช้งานได้มากขึ้น แต่ในบ้านที่ร้อนเพราะโดนแดดมากๆการเทพื้นคอนกรีตในบริเวณที่จะโดนแดด แต่สะท้อนกับตัวคอนกรีตแล้วเข้าไปที่ตัวบ้าน ทำให้บ้านยิ่งร้อนมากขึ้น และในอีกมุมนึงคอนกรีตก็จะเป็นตัวดูดซับความร้อน แม้ช่วงเย็นที่แดดหมดไปแล้วแต่ความร้อนจากคอนกรีตก็ยังคงเข้าสู่ตัวบ้านอยู่ดี

แดดเข้าบ้าน บ้านร้อน แก้ยังไงดี

5. ปลูกต้นไม้หรือหญ้าบริเวณที่โดนแดด

นี้เป็นวิธีการคลายความร้อนให้กับตัวบ้านที่ง่ายได้รับความนิยมและคลาสสิคที่สุด นั่นคือการปลูกต้นไม้รอบ ๆ บริเวณบ้าน ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการปลูกต้นไม้ทำให้บ้านร่มรื่นมีร่มเงาและช่วยป้องกันแสงแดดได้เป็นอย่างดี อาจทำการออกแบบเพื่อปลูกต้นไม้ให้เป็นแนวบังแดด เช่นปลูกต้นไม้ขึ้นในมุมที่แดกตกกระทบเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อดีของคนที่ไม่ต้องการปลูกต้นไม้ให้เต็มบริเวณบ้าน เพียงแค่ปลูกต้นไม้ขึ้นมาบ้างให้ช่วยกรองแสงลงมาสักข้างหนึ่งก็จะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นมากแล้ว
ซึ่งข้อดีของต้นไม้มีอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นอากาศที่บริสุทธิ์ความร่มรื่นความสบายตาหรือความสดชื่นในแต่ละวัน

ทั้งหมดนี้คือวิธีการที่คุณสามารถใช้ได้ในการป้องกันแสงแดดและความร้อนของตัวบ้าน ซึ่งการป้องกันแสงแดดหรือความร้อนนับว่าเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อเรื่องอารมณ์ความสุขและจิตใจของผู้อาศัยในบ้านโดยตรง ซึ่งถ้าบ้านร้อนก็มักจะนำมาซึ่งความหงุดหงิดรำคาญใจและเสียสุขภาพจิต แต่ถ้าบ้านร่มรื่นเย็นสบายไม่ร้อนหน้าอยู่ก็จะทำให้คนที่อยู่มีความคิดที่ดีขึ้นสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขภายในบ้าน สุดท้ายหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเจ้าของบ้านท่านใดที่ต้องการหาความรู้หรือวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนอยู่นะครับ

คลิกติดต่อสั่งซื้อสินค้า

สินค้าแนะนำ

ผนังเบาคืออะไร มีกี่ชนิด อะไรบ้าง

ผนังเบาคืออะไร มีกี่ชนิด อะไรบ้าง

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน พูดถึงการสร้างบ้าน สี่งหนึ่งที่เราจะต้องพูดถึงเพิ่มขึ้นมา นั่นคือการกั้นห้องจริงไหมครับ โดยถ้าเกิดเป็นห้องที่มีการวางแผนมาก่อนอยู่แล้ว เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องอื่นๆ ที่เจ้าของบ้านคิดมาดีแล้วตอนออกแบบก็จะไม่มีปัญหา

ผนังเบาคืออะไร มีกี่ชนิด อะไรบ้าง

แต่ปัญหาที่หลายครั้งมักเกิดขึ้นคือ หลังจากที่สร้างบ้านไปแล้วหลายคนอยากจะกั้นห้องเพิ่ม หรืออยากจะกั้นส่วนใช้งานเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากการออกแบบ ซึ่งไม่สามารถใช้ในการฉาบปูนหรือก่ออิฐเข้าไปได้เพราะไม่ได้มีการคำนวณจุดนี้เอาไว้ ตรงนี้เองที่ผนังเบาจะเข้ามามีบทบาทในการทำงาน

ผนังเบาคือแผ่นกั้นที่มีน้ำหนักเบา ใช้ในการกั้นพื้นที่ใช้สอยโดยที่มีน้ำหนักเบาจนแทบไม่ต้องคำนวณน้ำหนักที่คานต้องรองรับใหม่ และเนื่องจากน้ำหนักเบานี่เองจึงทำให้ติดตั้งง่าย ใช้เวลาแค่ไม่กี่วันหรือบางครั้งมีกี่ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว อาจใช้ในการกั้นห้องนั่งเล่น กั้นห้องนอนหรือกั้นห้องเล็กๆ ตามอาคารสำนักงานต่างๆ โดยผนังเบาแบ่งเป็นได้หลายรูปแบบตามวัสดุที่นำมาใช้

ผนังเบาคืออะไร มีกี่ชนิด อะไรบ้าง

ผนังเบาสามารถแบ่งออกมาได้หลักๆ 3 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1 ผนังเบายิปซั่มบอร์ด

ผนังเบาชนิดนี้เป็นลักษณะที่เบาและราคาถูกที่สุด ผลิตมาจากผงยิปซั่มที่นำมาอัดตัวให้ขึ้นรูปเป็นรูปสี่เหลี่ยมแล้วปิดผิวด้วยกระดาษ ข้อดีคือถูก เบา ทำงานง่าย จบงานเร็ว ตัด ต่อ โป้วง่าย งานที่ทำจะออกมาเรียบเนียน รอยต่อสวยงาม

แต่ข้อสังเกตสำคัญคือ เนื่องจากมีลักษณะที่เบา และเป็นผงยิปซั่มที่อัดตัว ทำให้มีความแข็งแรงที่ค่อนข้างน้อย เปราะ แตกง่ายหากมีแรงกระแทก ไม่เก็บเสียงและปัญหาใหญ่สำคัญเลยคือ เนื่องจากปิดผิวด้วยกระดาษจึงทำให้มีโอกาสที่ปลวกจะมากินกระดาษ และหากเกิดปัญหานั้นขึ้น ผงยิปซั่มที่อยู่ภายในก็จะหลุดร่อนออกมา ทำให้ดูไม่สวยงามและเกิดความเสียหาย

ประเภทที่ 2 ผนังเบาซีเมนต์บอร์ด

เป็นผนังเบาชนิดที่มีความแข็งแรงทนทานกว่าผนังยิปซั่ม เก็บเสียงได้มากกว่าและมีน้ำหนักมากกว่า ผลิตมาจากผงซีเมนต์ที่บดผสมกับเศษไม้เนื้อละเอียดแล้วเอามาขึ้นรูปเป็นสี่เหลี่ยม ผิวด้านนอกฉาบเรียบเนียนด้วยซีเมนต์ สามารถทาสีได้เหมือนผนังซีเมนต์ ทำให้เมื่อจบงานแทบจะดูไม่ออกเลยครับว่าเป็นแผ่นผนังเบาหรือผนังซีเมนต์

แต่จุดสังเกตสำคัญคือ เนื่องจากภายในมีไม้เป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลัก หากมีการแตกหักหรือมีริ้วรอยจากภายนอก แล้วทำให้เนื้อไม้ภายในโผล่ออกมาก็มีโอกาสที่จะปลวกขึ้นได้เช่นกัน เรียกว่าป้องกันปลวกได้ระดับหนึ่งแต่ไม่ 100%

ผนังเบาคืออะไร มีกี่ชนิด อะไรบ้าง

ประเภทที่ 3 ผนังเบาไฟเบอร์ซีเมนต์

ประเภทนี้จะคล้ายกับประเภทที่ 2 ตรงที่ มีหนึ่งในส่วนประกอบหลักเป็นซีเมนต์เหมือนกัน แต่อีกส่วนประกอบหลักนึงเป็นใยไฟเบอร์ ซึ่งประกอบด้วยเซลลูโลสกับทรายซิลิก้า ไม่มีไม้เป็นส่วนประกอบเลยทำให้ป้องกันปลวกได้ 100% ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งคือเนื่องจากมีใยไฟเบอร์เป็นส่วนผสมทำให้มีความเหนียวซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของไฟเบอร์

ตามปกติแล้วซีเมนต์จะมีลักษณะที่เปราะแข็งแตกง่าย แต่เมื่อมีการผสมใยไฟเบอร์เข้าไปทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นเพราะมีคุณสมบัติของความเหนียวเข้าไปด้วย ซึ่งจุดเด่นตรงนี้เองทำให้สามารถนำไปดัดให้โค้งได้เอาไปทำผนังขึ้นรูปในลักษณะของแนวโค้งได้อย่างง่ายดาย

ผนังเบาคืออะไร มีกี่ชนิด อะไรบ้าง

แล้วถามว่าผนังเบาชนิดไหนที่ดีกว่ากัน

คำตอบที่ถูกต้องคือทั้ง 3 ชนิดดีทั้งหมด และมีข้อดีข้อเสียในแบบของตัวเอง ทำให้เหมาะกับชนิดงานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของตัวเจ้าของบ้านและช่าง

ถ้าหากท่านอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผนังเบาไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด สามารถกดที่ลิงค์ท้ายบทความนี้เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมและเลือกดูแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ดตามที่ท่านต้องการได้เลยครับ

คลิกติดต่อสั่งซื้อสินค้า

สินค้าแนะนำ

ตอกเสาเข็มไมโครไพล์ด้วยทีมตั้งถาวร

เสาเข็มกำลังเตรียมขนขึ้นรถ

ตั้งถาวร

บริการตอกเสาเข็มไมโครไพล์ i18 i22 i26

ทีมงานตั้งถาวร

เริ่มจากเราเป็นโรงงานผลิตเสาเข็มเจ้าใหญ่ที่สุดในจังหวัดปทุมธานี โรงงานของเรามีพื้นที่กว่า 20 ไร่ หลังจากนั้นเราได้พัฒนาธุรกิจจนปัจจุบันเราจึงมีความเชี่ยวชาญด้านงานตอกเสาเข็มด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี

โรงงานเสาเข็มไมโครไพล์
โรงงานเสาเข็มไมโครไพล์

บริการของตั้งถาวร เสาเข็มไมโครไพล์

  • รับตอกเสาเข็มไมโครไพล์ มี i18 i22 i26
  • รับออกแบบและคำนวณเสาเข็ม
  • ตรวจสอบและวิเคราะห์สภาพหน้างาน
  • รับติดตั้งเสารั้วสำเร็จรูปจบงานไว ไม่ทิ้งงาน

จุดเด่นของตั้งถาวร เสาเข็มไมโครไพล์

  • ทีมวิศวกรและช่างผู้ชำนาญงานระสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี
  • อุปกรณ์เครื่องจักรทันสมัย
  • วัสดุคุณภาพสูง
  • ราคาเป็นกันเอง
  • บริการหลังการขาย

ผลงานของเรา

เราเคยมีผลงานตอกเสาเข็มให้กับโครงการต่างๆ มากมาย เช่น

  • โครงการที่พักอาศัยที่อยู่อาศัย
  • สำนักงานราชการ
  • คลังสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม

ปั่นจั่นใหญ่

ทีมงานตอกเสาเข็มตั้งภาวร
ทีมงานมืออาชีพ
มีโรงงานผลิต

ผลงานล่าสุดของเรา

พร้อมส่งเสาเข็ม

ราคาโรงงาน พร้อมมีบริการติดตั้งให้ค่ะ

เสาเข็มก่อสร้างโรงงาน

โรงงานรีไซเคิล ปทุมธานี

ผลงานเสาเข็มกฟผ

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

วิธีเลือกถังเก็บน้ำ พร้อมปัญหาที่คุณควรรู้

ถังเก็บน้ำถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบ้านควรมีไว้ เพราะหน้าที่ของมันคือเก็บสำรองน้ำเอาไว้ให้เราใช้เวลาที่น้ำประปาไม่ไหล แต่สำหรับใครที่เพิ่งจะมีบ้านเป็นของตัวเอง กำลังหาซื้อข้าวของเข้าบ้าน และไม่รู้ว่าจะเลือกถังเก็บน้ำอย่างไรดี(เพราะถังเก็บน้ำก็มีหลายแบบซะเหลือเกิน) บทความนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว

วิธีเลือกถังเก็บน้ำ

ประเภทของถังเก็บน้ำ

:แบ่งตามวัสดุ:

1.แบบโพลิเมอร์ มีทั้งแบบทึบแสงและไม่ทึบแสง ข้อดีคือราคาไม่แพง แข็งแรงคงทน ใช้งานได้เกิน 10-20 ปี

2. แบบสแตนเลส แม้จะมีราคาค่อนข้างแพง แต่มีความแข็งแรงคงทน ไม่ถูกกัดกร่อนง่าย น้ำหนักเบา ส่วนข้อเสียคือน้ำในถังจะมีค่าความเป็นกรดไม่ได้เพราะจะทำให้เกิดสนิมได้ง่าย
3. แบบไฟเบอร์กลาส ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรงทนทาน ไม่เกิดสนิมง่าย จึงเก็บน้ำได้หลายแบบ แต่ข้อเสียคือตัวถังจะค่อนข้างหนัก และถึงแม้จะแข็งแรง แต่ก็ไม่เหมาะที่จะตั้งกลางแดดจัดๆ เพราะวัสดุจะกรอบ และถังจะแตกได้

แบ่งตามตำแหน่งการติดตั้ง:

1.แบบติดตั้งบนพื้นดิน เห็นตามบ้านมากที่สุด คือถังจะถูกตั้งบนพื้นที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งภายในรั้วบ้าน แต่โดยมากจะนิยมตั้งไว้หลังบ้าน โดยแบบที่นิยมใช้คือแบบสแตนเลสและแบบโพลีเมอร์
2. แบบติดตั้งใต้ดิน เหมาะสำหรับถังพลาสติกและถังคอนกรีต เป็นการติดตั้งที่แนะนำสำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย

ถังเก็บน้ำมีกี่ขนาด?

ถังเก็บน้ำแม้จะเป็นวัสดุแบบเดียวกัน แต่ก็มีหลายขนาดให้เลือก เริ่มตั้งแต่หลายร้อยลิตรไปจนถึงหลักพัน ส่วนจะเลือกใหญ่หรือเล็กแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละบ้าน ถ้ามีคนอยู่เยอะ ใช้น้ำเยอะ ก็ให้เลือกขนาดใหญ่ แต่ถ้าอยู่ไม่กี่คนและใช้น้ำไม่เยอะ เลือกถังขนาดเล็กก็จะประหยัดกว่า

วิธีเลือกถังเก็บน้ำ

ก่อนซื้ออย่าลืมดูวัสดุให้ดี

ไม่ใช่ว่าเป็นแบบสแตนเลส แบบพลาสติก หรือแบบไหนก็ตาม แล้วจะเข้าร้านไปซื้ออันไหนก็ได้ เพราะวัสดุแต่ละชนิดต่างก็มีเกรด เกรดดีเกรดไม่ดี ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงควรเลือก…

-ถังที่มีสัญสัญลักษณ์ “มอก.(มาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม)”
-ถ้าวัสดุเป็น Food Grade ได้จะดีมาก เพราะหากต้องใช้น้ำในการประกอบอาหารจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อคนในบ้าน
-ถังน้ำพลาสติกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Compounding จะมีความคงทนมากกว่าแบบที่ผลิตด้วยวิธีอื่น เพราะเป็นการใช้ความร้อนและแรงอัด ทำให้พลาสติกต่อตัวกันดี ไม่พังง่าย

ปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับถังเก็บน้ำ

1.น้ำล้นถัง ปัญหาที่เจอแทบทุกบ้าน กับการที่น้ำล้นออกมานอกถัง ทำให้มิเตอร์น้ำหมุนเร็วกว่าปรกติ สุดท้ายก็ต้องจ่ายค่าน้ำแพงลิบลิ่ว
ปัญหาน้ำล้นถังเกิดจากการที่ลูกลอยเสียหาย จึงทำให้ไม่มีอะไรตัดน้ำเวลาน้ำเต็มถัง น้ำจึงเอ่อล้นมาเรื่อยๆ และน้ำประปาถูกจ่ายมาไม่หยุดนั่นเอง ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด คือเปลี่ยนลูกลอยใหม่ แต่ถ้ายังไม่สะดวกเปลี่ยนทันที ให้ปิดวาล์วมิเตอร์น้ำไปก่อน

2. ถังบวม/ถังแตก
เป็นปัญหาที่เกิดตามมาได้ถ้าหากน้ำล้นถัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถังที่ไม่ใช่สแตนเลส เมื่อน้ำล้นมากๆ จะเกิดแรงดัน ทำให้ถังบวมและแตกได้ นอกจากนี้ การตั้งถังไว้ในที่ที่มีแดดจัดๆ ก็สามารถทำให้ตัวถังกรอบ แตกได้เช่นกัน

3. น้ำในถังไม่สะอาด
เมื่อถึงคราวที่น้ำประปาไม่ไหล จำเป็นต้องใช้น้ำที่สำรองไว้ในถัง แต่น้ำเกิดสกปรก มีกลิ่นเหม็น มีตะกอนมีเศษนั่นเศษนี่ สาเหตุเป็นเพราะคุณทำความสะอาดถังเก็บน้ำน้อยเกินไปหรือไม่เคยทำความสะอาดเลย โดยที่เหมาะสมคือควรทำทุกครึ่งปี ส่วนวิธีการคือถ่ายน้ำออกจากถังก่อน จากนั้นฉีดน้ำทำความสะอาดข้างในถังด้วยเครื่องฉีดแรงดันสูง จากนั้นพอถังแห้งแล้วก็ใส่น้ำได้ตามปรกติ หรือจะใช้คลอรีนใส่ลงไปในถังเพื่อฆ่าเชื้อโรค กวนให้เข้ากัน จากนั้นค่อยปล่อยน้ำออกแล้วใส่น้ำเข้าไปใหม่

4. ถังน้ำรั่ว
บางบ้านอาจจะเจอปัญหาน้ำรั่วซึมตามข้อต่อถัง ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่วัสดุหดตัวเมื่อเจอความร้อนหรือเย็นนานๆ หรือถูกความชื้นมากเกินไปจนเป็นสนิม วิธีแก้ปัญหาคือให้ติดต่อบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่าย เพื่อให้ช่างรีบมาซ่อม ซึ่งการซ่อมใช้เวลาไม่นานมากและไม่เปลืองค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นถังเก็บน้ำใต้ดินจะซ่อมยากกว่า เพราะต้องรื้อฝาออก นอกจากนี้เจ้าของบ้านอาจไม่รู้เมื่อน้ำรั่วด้วย เพราะถังถูกซ่อนไว้ใต้ดิน ทำให้ไม่ได้ยินเสียงน้ำหยด หรือเห็นรอยน้ำซึม ดังนั้นใครที่กังวลปัญหาเรื่องน้ำรั่วจริงๆ แนะนำให้ติดตั้งเป็นถังบนดินจะดีที่สุด

มั่นใจ เลือกใช้ถังเก็บน้ำ DOS Life!
ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการด้วยถังเก็บน้ำคุณภาพระดับพรีเมียม มีให้เลือกหลากหลายแบบ วัสดุทนทาน ไม่แตก กรอบ รั่วซึมง่าย ได้มาตรฐาน

คลิกติดต่อสั่งซื้อสินค้า

สินค้าแนะนำ

เลือกวัสดุปูพื้นอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน

เลือกวัสดุปูพื้นอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน

เลือกวัสดุปูพื้นอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน

หนึ่งในองค์ประกอบหลักของบ้านที่แค่เดินเข้าไปก็มองเห็นทันที นอกจากฝ้าเพดานที่มองเห็นชัดแล้ว พื้นเองก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะเป็นจุดที่ต้องใช้งานอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีการใช้งานที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ บางจุดต้องการความสวยงาม บางจุดต้องการการเสียดทานไม่ลื้น และจุดอื่น ๆ เองก็ใช้งานต่างกัน วันนี้ผมจึงนำวิธีการเลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละจุดของตัวบ้านมาฝากคุณ

วิธีการเลือกวัสดุปูพื้นตามการใช้งานต่าง ๆ

เลือกวัสดุปูพื้นอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน

1.ห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นคือประตูด่านแรกของบ้านที่คนจะเข้ามาเห็น มักจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในตัวบ้าน เป็นห้องที่คนพลุกพล่านไปมา มีเพื่อนฝูงมาอยู่ด้วย ชวนกันมาปาร์ตี้กัน คุณสามารถเลือกพื้นแบบไหนมาปูก็ได้ ทั้งกระเบื้อง พรม ไม้ ลามิเนตหรือกระเบื้องยาง

เลือกวัสดุปูพื้นอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน

2.ห้องครัว
เป็นห้องที่ต้องเผชิญคราบน้ำมันกระเด็น หรือเศษต่าง ๆ จากตอนทำอาหาร และยังนับว่าเป็นจุดศูนย์กลางภายในบ้าน เป็นบริเวณที่เหล่าสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อนฝูง มารวมตัวเพื่อรับประทานอาหารและพูดคุยกัน รองรับทั้งโต๊ะอาหาร เครื่องครัว รวมถึงผู้คน เรียกได้ว่ารับศึกหนักมาก

ดังนั้นพื้นห้องครัวควรเลือกพื้นที่มีความทนทานสูง ทนรอยขีดข่วน กันความชื้น กันคราบเปื้อน และทำความสะอาดง่าย แนะนำวัสดุปูพื้นที่เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องเซรามิค พื้นคอนกรีต หรือปูนขัดมันก็ได้

เลือกวัสดุปูพื้นอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน

3.ห้องน้ำ
ห้องน้ำจัดเป็นห้องเปียก โดนน้ำตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าจะสบู่ แชมพู และคราบต่าง ๆ และเป็นห้องที่ต้องมีการขัดพื้นทำความสะอาดเป็นประจำ พื้นที่ดีที่สุดสำหรับห้องน้ำควรเป็นพื้นที่สามารถทนความชื้นได้ดี กันลื่นจากคราบน้ำหรือสบู่ ทนรอยขีดข่วนจากการขัดล้าง และทำความสะอาดง่าย เราจึงขอแนะนำพื้นห้องน้ำเพียง 2 แบบคือ กระเบื้องแบบแกรนิตโต้และกระเบื้องแบบพอร์ซเลน ซึ่งกระเบื้องทั้ง 2 ชนิดมีความแข็งแรงทนทาน กันลื่นได้ และอัตราการซึมน้ำต่ำ ส่วนกระเบื้องแบบเซรามิคก็เป็นที่นิยมเพราะทำความสะอาดง่ายและราคาถูก แต่มักจะมีปัญหาเรื่องความลื่น

เลือกวัสดุปูพื้นอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน

4.ห้องนอน
ห้องนอนนั้นคือห้องพักผ่อนของคุณเอง จัดเป็นพื้นที่ส่วนตัว ออกแบบห้องนี้ตามที่เราชอบ รวมถึงลายของพื้น หรือพื้นสัมผัสเลือกพื้นแบบใดก็ได้ เพราะมันคือห้องของคุณแล้ว ถ้าชอบนุ่ม ๆ ก็เลือกพวกพื้นไม้ พรม กระเบื้องยาง หรือพื้นลามิเนต เป็นต้น

เลือกวัสดุปูพื้นอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน

5.ห้องนอนเด็ก
ห้องนอนเด็กควรจะเป็นพื้นที่ไม่ลื่น และไม่แข็งจนเกินไป เพื่อนป้องกันเด็กลื่นกระแทกกับพื้น และเด็กมักจะนั่งเล่นกับพื้น พื้นจึงต้องสะอาด ทำความสะอาดได้ง่าย และทนทาน ควรเลือกพื้นไวนิล หรือกระเบื้องยาง

สุดท้ายแล้วทั้ง 5 จุดนี้เป็นวิธีการเลือกตามการใช้งานเท่านั้น สิ่งที่คุณต้องคำนึงอีกจุดหนึ่งคือเรื่องรสนิยม ซึ่งส่วนนี้คุณต้องพูดคุยปรึกษากับทีมช่างอีกครั้งตามความเหมาะสมในการออกแบบของคุณ

คลิกติดต่อสั่งซื้อสินค้า

สินค้าแนะนำ

เหล็กข้ออ้อย

เหล็กข้ออ้อย ปทุมธานี

เหล็กข้ออ้อย

เหล็กข้ออ้อย เป็นเหล็กเส้นใหญ่สเปคใหญ่สุดในบรรดาเหล็กเส้นด้วยกัน ใช้สำหรับงานก่อสร้างหรืองานคอนกรีตที่ต้องรับน้ำหนักมากที่สุด เช่น งานอาคารขนาดใหญ่ งานถนนคอนกรีตที่ต้องรับน้ำหนักรถวิ่งอยูตลอดเวลา เหล็กข้ออ้อยมีขนาดตั้งแต่ 4 หุนอ้อย , 5 หุนอ้อย , 6 หุนอ้อย 1นิ้วอ้อย มีทั้งแบบเหล็กอ้อยเบา และเหล็กอ้อยโรงใหญ่

เหล็กข้ออ้อย คือ อะไร

เป็นเหล็กที่มีครีบและบั้งที่ผิวเหล็ก ซึ่งหน้าที่ของครีบและบั้งคือ ช่วยให้เหล็กยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี ทำให้โครงสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กมีความแข็งแรง เป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนมากมักจะใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงให้กับคอนกรีต เช่น คาน เสา พื้นถนน สะพาน เขื่อน บ้าน อาคาร และงานก่อสร้างที่มีแรงอัดมากๆ เป็นต้น โดยเหล็กเส้นข้ออ้อยจะมีหลายขนาดและหลายความสามารถในการรับแรง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานแตกต่างกัน เช่น เหล็กเส้นข้ออ้อย SD30 SD40 SD40S และ SD50

เหล็กข้ออ้อย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Deformed Bars

เหล็กข้ออ้อย มีประโยชน์อย่างไร

ประโยชน์ของเหล็กข้ออ้อยก็คือ เป็นเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ในการก่อสร้างแต่ละครั้งยังต้องมีการใช้งานควบคู่กับเหล็กเส้นกลมด้วย โดยทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของวิศวกรประจำโครงการ แต่ส่วนมากจะใช้เหล็กข้ออ้อยเป็นหลัก เพราะรับแรงได้ดีกว่าเหล็กเส้นกลม และเหล็กข้ออ้อย เป็นเหล็กที่มีแรงยึดเกาะที่ผิวสูง เหมาะสำหรับงานคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ต้องการความแข็งแรงสูงเช่น เขื่อน, สะพาน หรืองานก่อสร้างใดๆ ที่ต้องรับแรงอัดมากๆ และตึกที่มีความสูงมาก

การเลือกซื้อเหล็กข้ออ้อยที่ดี ดูได้จากอะไรบ้าง

หลักการพื้นฐานในการเลือกซื้อเหล็กข้ออ้อย ควรจะมีป้ายบอกรายละเอียดติดไว้ให้ชัดเจน เพื่อบอกข้อมูลที่สำคัญ ๆ ได้แก่

  • เครื่องหมาย มอก.
  • ขนาด
  • ความยาว
  • บริษัทผู้ผลิต ประเภทสินค้า
  • ชั้นคุณภาพ
  • วันเวลาที่ผลิต

เหล็กข้ออ้อย

การนำเหล็กข้ออ้อยไปใช้งาน  

เหล็กข้ออ้อยจะนำไปใช้งานประเภทงานเสา คาน บันได รวมไปถึงบ่อและสระน้ำ สระว่ายน้ำต่าง ๆ โดยเหล็กข้ออ้อยที่ดีจะต้องมีระยะบั้งหรือครีมที่เท่ากันเสมอกัน ราคาเริ่มต้นที่ร้อยกว่าบาทและขนาดใหญ่ที่สุดคือ 1นิ้วอ้อย จะอยู่ที่เส้นละ 600-700 กว่าบาท ราคาเหล็กจะเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นประจำทุกเดือน หรือเกือบทุกสัปดาห์ หากผู้รับเหมาหรือช่างก่อสร้างจะซื้อเหล็กข้ออ้อยมาใช้ ควรสอบถามราคาก่อนและควรสอบถามราคาจากหลาย ๆ ร้าน

แนวโน้มราคาเหล็กข้ออ้อย 

ต้องยอมรับว่าราคาเหล็กในวันนี้กับเมื่อ 10กว่าปีก่อนราคาเหล็กสูงขึ้นเป็นเท่าตัวเอาป็นเหล็ก 2 หุนลายหรือ 2 หุนเบา เมื่อ 18 ปีก่อนราคาเส้นละ 19 บาท แต่ปัจจุบันราคาเส้นล่ะ 38 บาท บางร้านหรือบางแห่งขายเส้นละ 40 บาทด้วยซ้ำไป และเหล็กข้ออ้อยรุ่นเล็กสุดคือ 4 หุนอ้อยโรงใหญ่ เส้นล่ะ 100กว่าบาทแล้ว แต่จะสวนทางกันระหว่างเหล็กเส้นกับปูนนะครับ ถ้าราคาปูนขึ้นราคาเหล็กจะลง หรือเหล็กสูงขึ้นราคาปูนจะลงหรือคงที่ไม่ปรับลง

เหล็กข้ออ้อยที่คนไทยนิยมมาใช้งานมากที่สุด

เหล็กข้ออ้อยขนาดที่ช่างไทยหรือผู้รับเหมาไทยนิยมใช้ที่สุด ก็คือ เหล็ก 4 หุนอ้อย สำหรับเหล็ก 4 หุนอ้อย จะมีขนาดตั้งแต่ 10 มิล ไล่ไปจนถึงขนาด 4 หุนอ้อยโรงใหญ่เลยทีเดียว ราคาตกเส้นละ 100 กว่าบาทไม่เกิน 200 บาทนะครับ มีทั้งแบบงอและแบบเส้นตรง ถ้าใช้เส้นตรงแนะนำให้สั่งจากโรงงานหรือสั่งจากร้านวัสดุก่อสร้างการเลือกใช้เหล็กข้ออ้อยเส้นตรงก็เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเอาเหล็กเส้นที่งอหรือพับแล้วมาดัดให้เหล็กมันตรงอีกด้วย

เหล็กข้ออ้อยที่ดีต้องมีมาตรฐานอะไร

  • เหล็กข้ออ้อยที่ดีควรผลิตจากเตา EF เป็นเตา EF สามารถควบคุมส่วนประกอบทางเคมีได้อย่างแม่นยำ เหล็กที่ได้จึงมีคุณภาพสูง แข็งแกร่งเหมาะกับงานก่อสร้าง พร้อมทั้งส่งผ่านแรงได้ดี ดังนั้น เหล็กข้ออ้อยที่เลือกใช้จึงควรผลิตจากเตา EF
  •  ผ่าน มอก.รับรองความปลอดภัย เหล็กเส้นข้ออ้อยจะต้องผ่านมาตรฐานเหล็กเส้นฉบับใหม่ พ.ศ. 2559 จากมอก. 24-2548 เป็นมอก.24-2559

การเลือกใช้งานเหล็กข้ออ้อย
การเลือกใช้งานเหล็กข้ออ้อยเป็นหลัก เนื่องจากรับแรงหรือน้ำหนักได้ดีกว่า , ในเสาแนวตั้ง จะใช้เหล็กข้ออ้อยเป็นเหล็กยืน และตั้งตลอดแนวเสา และใช้เหล็กเส้นกลมเป็นเหล็กปลอกรัดรอบเหล็กยืนเป็นระยะ ๆ , ในคานแนวนอน จะใช้เหล็กข้ออ้อยเป็นเหล็กนอน และใช้เหล็กเส้นกลมเป็นหลัก ปลอกรัดรอบเหล็กนอกเป็นระยะ ๆ

สำหรับการเลือกใช้ชนิดของเหล็กเส้นข้ออ้อย SD30, SD40, และ SD50 ขึ้นอยู่กับชนิดของโครงสร้างเป็นสำคัญ ลักษณะของเหล็กเส้นข้ออ้อยที่ดี ต้องมีระยะบั้งที่เท่ากันและสม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น ไม่มีสนิมรอยตำหนิ ไม่มีรอยปริและแตกร้าว ความยาวโดยปกติที่ขายกันในท้องตลาด คือ 10 ม. แต่อาจจะสั่งพิเศษ เช่น 12 ม. หรือมากกว่านั้นก็ต้องสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ

เหล็กข้ออ้อย โรงใหญ่จะราคาแพงที่สุดในบรรดาเหล็กข้ออ้อยทั้งหมด บางครั้งช่างก่อสร้างหรือผู้รับเหมาจะเลือกใช้เหล็กข้ออ้อย น้ำหนักเบา ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าเหล็กข้ออ้อยเต็ม โรงใหญ่ แต่เป็นเหล็กข้ออ้อยเหมือนกัน ซึ่งใช้ในการทำงานได้เหมือนกัน

ปรับห้องนอนเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก

ปรับห้องนอนเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก

สำหรับครอบครัวที่กำลังจะมีลูก หรือลูกกำลังจะเข้าสู่วัยซุกซน พ่อแม่ย่อมมีความเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของลูก เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่ดีสำหรับปรับห้องนอนให้เข้ากับวัยเด็กที่เราต้องดูแล เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กๆในบ้าน
ปรับห้องนอนเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก

1.พื้น
พื้นไม่ควรจะแข็งและลื่นเกินไป เพราะมีความเสี่ยงที่เด็กจะลื่นล้มและบาดเจ็บได้ง่าย ยิ่งวัยซุกซนแล้วจึงน่าเป็นห่วง พื้นที่เราอยากแนะนำคือพรมหรือไม่ก็พื้นยางไปเลย เพราะไม่แข็งเกินไป มีความนิ่ม ลดการบาดเจ็บจากการหกล้มได้ดี และควรเลือกพื้นยางที่ไม่ลื่นด้วย แนะนำควรปูพื้นยางหรือพรมทั้งห้องด้วย ที่สำคัญไม่ควรมีของแข็งหรืออะไรก็ตามที่อันตรายตามพื้น เพราะเสี่ยงทำให้เด็กสะดุดล้ม หรือล้มไปโดนของแข็งที่วางบนพื้นได้ พื้นคือปัจจัยสำคัญมาก ยังไงเด็กต้องสัมผัส

ปรับห้องนอนเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก

2.ประตู
ปัญหาจากประตูที่พบได้บ่อยคือ ประตูหนีบมือหนีบนิ้ว ทางแก้คือลองหาโช๊คอัพประตูที่ทำให้ประตูไม่เลื่อนประตูปิดเอง มีการเปิดค้างไว้ที่ 90องศา ปลอดภัยจากประตูหนีบมือเด็กได้ เพิ่มความปลอดภัยไปอีกเปราะหนึ่งและที่สำคัญต่อมาคือ ควรเลือกลูกบิดประตูที่จะกดล็อกประตูได้ยาก เพราะด้วยความเป็นเด็ก อาจพรั้งเผลอซนไปเล่นและล็อกประตูโดยไม่รู้ตัว เมื่อเด็กเป็นไรกระทันหันขึ้นมา ผู้ปกครองจะเข้าไปช่วยลูกได้ทันท่วงที หรือไม่ก็แขวนกุญแจไว้หน้าประตูเลยก็ได้

3.หน้าต่าง
หน้าต่างควรจะอยู่สูงเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กปีนเล่น หรือถ้าหน้าต่างไม่สูงจริง ๆ ทางแก้คือหากรงหน้าต่างมาปิดไว้ ที่ป้องกันไม่ให้เด็กตกหน้าต่างได้

4.เฟอร์นิเจอร์
เฟอร์นิเจอร์ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ ควรเลือกที่ขอบเฟอร์นิเจอนั้นไม่คมหรือแข็งเกินไป หรืออาจจะหาอะไรนิ่ม ๆ เช่น ฟองน้ำมาครอบไว้ตามขอบต่าง ๆ ก็ได้ เพื่อป้องกันการกระแทกที่เด็กไปชน และเฟอร์นิเจอร์ไม่ควรโยกย้ายได้ง่าย เพราะเด็กอาจจะซุกซนขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ด้วยตนเองจนเกิดการบาดเจ็บได้ หรืออาจลากตู้ขนาดเล็กไปปีนหน้าต่างเป็นต้น

ปรับห้องนอนเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก

5.ของอันตราย
อุปกรณ์ข้าวของ เช่นมีด ของมีคม แหลม หรือสิ่งที่เป็นอันตรายเช่นแก๊ส หรือสารที่เป็นพิษไม่ควรอยู่ในห้องเด็ก และไม่ควรอยู่ในที่ต่ำจนเด็กหยิบมาเล่นได้

6.แสงแดด
แสงแดดอ่อน ๆ จะช่วยกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ ที่หมักหมมอยู่ในห้องนอนเด็กได้ และยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับเด็กได้อีกด้วย ตกแต่งห้องนอนเด็กให้มีแสงส่องผ่านเข้ามาอย่างเพียงพอ ยิ่งมีหน้าต่างเยอะก็ยิ่งดี และอย่าลืมความปลอดภัยสำหรับเด็ก ป้องกันไม่ให้ปีนหน้าต่างด้วยนะครับ

ปรับห้องนอนเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก

7.ปลั๊กไฟ
ควรเลือกปลั๊กไฟที่มีฝาครอบ เพื่อป้องกันเด็กเอานิ้วแหย่เข้าไปในปลั๊กไฟ ถ้าให้ดีเลยให้เด็กอยู่ห่างปลั๊กมากที่สุดยิ่งดีนะครับ

ทั้งหมดนี้คือ จุดสำคัญที่คุณต้องตรวจสอบและคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เพราะธรรมชาติของเด็กที่มีความสงสัยเป็นปกติ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้นขอให้ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นประโยชน์ในการช่วยเรื่องของการจัดห้องสำหรับเด็ก ๆ ในบ้านนะครับ ขอบคุณครับ

เหล็กเส้น คืออะไร

ในการก่อสร้างบ้านแต่ละหลัง หรืออาคารพาณิชย์ ตึกแถว คอนโดมิเนียม ต้องมีเหล็กเส้น เป็นส่วนประกอบหรือเป็นส่วนเสริมเพื่อให้งานก่อสร้างสำเร็จไปได้ด้วยดี และเหล็กเส้นมีตั้งแต่เหล็กเบา เหล็กเส้น SR โรงใหญ่และโรงเล็ก และมีเหล็กข้ออ้อยอีกด้วย ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและลักษณะในการใช้งานว่าเหล็กขนาดกี่หินกี่มิลใช้สำหรับงานประเภทไหนงานอะไร

เหล็กเส้น คือ อะไร
เหล็กเส้น ก็คือ เหล็กเสริมใช้สำหรับงานก่อสร้างบ้านเรือน อาคาร คอนโด หรือสำหรับเสริมงานคอนกรีต งานถนน งานสะพานต่างระดับที่ต้องใช้เหล็กเส้นใหญ่ ๆ พวกเหล็กข้ออ้อย เหล็กเส้นเบาหรือเหล็กเส้นเต็มจะใช้งานต่างกันไป และขึ้นอยู่กับความจำเป็นของเนื้องานที่จะใช้ หรือว่าเจ้าของต้องการให้งานคงอยู่กี่ปีเท่านั้นเอง

เหล็กเส้น ชื่อ ภาษาอังกฤษ ว่า Rebar

เหล็กเส้นมีประโยชน์อย่างไร
สำหรับประโยชน์ของเหล็กเส้นมีมากมาย  ถ้าให้บอกประโยชน์คงต้องไล่ไปตั้งแต่เหล็กเส้นเล็กหรือเหล็ก 2 หุนลายกันก่อน ซึ่งเหล็ก 2 หุนลาย เอามาทำหนวดกุ้ง เอามาดัดแล้วเอามาทำปอกคานเสา คานบ้านได้อีกด้วย และเหล้กเส้น SR ไม่ว่าจะโรงเล็กหรือโรงใหญ่ สามารถทำให้บ้านทำให้คานบ้านเสาบ้านของเราแข็งแรง เมื่อเราใช้เหล็กเส้นเต็มในการก่อสร้างบ้านแล้ว บ้านของเราจะสามารถอยู่ได้ชั่วลูกชั่วหลาน โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินหาช่างมาซ่อมแซมบ้านของเราไปอีกนานเลยทีเดียว เพราะเราตัดสินใจใช้เหล็กเส้นเต็มตั้งแต่ตอนทำโครงสร้างบ้านแตกแรกแล้ว

ส่วนเหล็กข้ออ้อยไม่ว่าจะ 4 หุนอ้อย หรือ 5 หุนอ้อย ไปจนถึงขนาด 1 นิ้วอ้อย ส่วนมากจะเป็นงานหลวงซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลวง ถนน หรือสำนักงานล้วนแต่ใช้เหล็กเส้นเต็ม และยังมี มอก.รับรองอีกด้วย เพื่อให้ตรงสเปคกับงานที่ว่าจ้าง ถ้าไม่ตรงสเปคเวลาตรวจรับงาน งานที่ทำออกมาจะไม่ผ่านได้

เหล็กเส้นเอาไปใช้งานแบบไหน
เหล็กเส้นแต่ละขนาดมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานต่างกันนะครับ เช่น เหล็ก 2 หุนเบา หรือ 2 หุนลาย เอาไปทำหนวดกุ้ง , ดัดทำปอกเสาปอกคานได้ และยังเอาไปทำตะแกรงเหล็กแทนไวร์เมชสำหรับเทถนนได้ หรือเอาเหล็ก 3 หุนไปเสียบใส่กับเสา หรือเอาเหล็ก 4 หุนอ้อยไปทำตอม่อ อาคาร เพื่อความแข็งแรงได้

ปัจจุบันเหล็กเส้นราคาส่วนใหญ่ในท้องตลาดประมาณกี่บาท
ราคาเหล็กเส้นในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากเมื่อ 20 ปีก่อน เหล็ก 2 หุนลายเส้นละ 19 บาท ปัจจุบันเหล็ก 2 หุนลายตกเส้นละ 38 บาทเกือบ ๆ 40 บาทเลยทีเดียว ถ้าเป็นบ้านของเราเองแนะนำให้ใช้เหล็ก 2 หุน SR โรงใหญ่ไปเลยครับ เพราะบ้านเราอยู่เองไม่ต้องประหยัดงบประมาณ ดีกว่าต้องมาซ่อมแซมในภายหลังถ้าบ้านร้าว และราคา 4 หุนอ้อย โรงใหญ่ ตอนนี้ก็แพงอยู่พอสมควร เส้นนึงเกือบ 200 บาทเลยทีเดียว

แนวโน้มราคาเหล็กเส้นในอนาคตจะประมาณกี่บาท
สำหรับราคาเหล็กเส้น หากจะบอกว่าให้จับตามองเป็นเดือน ๆ ไป หรือใครจะปลูกบ้านหรือต่อเติม สำหรับงานต่อเติมเล็กน้อยไม่เยอะมากมายอะไร ก็สามารถตัดใจซื้อเหล็กเส้นเต็มโรงใหญ่ไปได้ เส้นนึงร้อยกว่าบาท ถือว่าไม่ได้แพงอะไร หรือจะปลูกบ้านใหม่สัก 1 หลัง แนะนำว่าให้เช็คราคาแต่ละร้านแล้วเลือกเอาร้านที่ราคาดีที่สุด แนะนำว่าเลือกเป็นเหล็กเส้นเต็มโรงใหญ่ สำหรับราคาเหล็กเส้นแนะนำว่าให้เช็คทุกเดือนสำหรับช่างที่รับเหมา แต่ถ้าจะได้ราคาแน่นอน ควรจะเช็ครายอาทิตย์น่าจะชัวร์กว่า

เหล็กเส้นขนาดไหนที่คนไทยนิยมมาใช้งานมากที่สุด
เหล็กเส้นไซส์ไหน ขนาดไหนที่ช่างหรือผู้รับเหมานิยมใช้ พวก เหล็ก 2 หุนลาย , เหล็ก 3 หุน , เหล็ก 4 หุนอ้อย 3 ขนาด 3 ไซส์  ปัจจุบันร้านค้าวัสดุก่อสร้างนิยมลงติดร้านเอาไว้เพื่อจำหน่ายแก่ช่าง แต่การหาลูกค้าที่จะซื้อวัสดุเพื่อปลูกบ้าน 1 หลังในร้านเดียวค่อนข้างลำบาก ด้วยภาวะเศรษฐกิจแบบนี้แล้วยิ่งมาเจอไวรัสโควิด-19 เล่นงานซ้ำเข้าไปอีก คนส่วนใหญ่มีแต่หาซื้อวัสดุเพื่อไปต่อเติมและซ่อมแซมบ้านเป็นส่วนใหญ่

เหล็กเส้นที่ดีต้องมีมาตรฐานอะไร
เหล็กเส้นต้องมี มอก.ติดที่ตัวเหล็กเส้นเลย หรือเป็นเหล็กบลส. ซึ่งจะมีติดอยู่กับตัวเหล็ก ลงไปดูตามร้านค้าวัสดุก่อสร้างได้ครับ ว่ามีเครื่องหมายนี้ติดอยู่หรือเปล่า หรืองานก่อสร้างพวกงานราชการงานหลวงก็สามารถขอหนังสือรับรอง มอก.จากผู้ผลิตผู้จำหน่ายได้เช่นกัน

 

คลิกติดต่อสั่งซื้อสินค้า

สินค้าแนะนำ

 

เลือกใช้สุขภัณฑ์อย่างไรให้เหมาะสมในยุค New Normal

เลือกใช้สุขภัณฑ์อย่างไรให้เหมาะสมในยุค New Normal

เมื่อพูดถึงตัวบ้านห้องทุกห้องล้วนมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเจ้าของบ้านแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะห้องน้ำห้องส้วม ซึ่งเป็นห้องที่จะต้องมีการใช้งานแทบทุกวัน ดีไม่ดีวันนึงก็หลายครั้ง ดังนั้นการออกแบบและการเลือกใช้สุขภัณฑ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของบ้านทุกท่านจำเป็นจะต้องใส่ใจและคำนึงถึงในการออกแบบบ้านทุกครั้ง

เลือกใช้สุขภัณฑ์อย่างไรให้เหมาะสมในยุค New Normal

ในการเลือกใช้โถสุขภัณฑ์หรือสุขภัณฑ์อื่น ๆ ในห้องน้ำรวมถึงการออกแบบล้วนสำคัญต่อการใช้งานบ้านในระยะยาว เนื่องจากห้องน้ำเป็นห้องที่ทุกคนในบ้านจะต้องใช้ร่วมกัน อีกทั้งหากออกแบบมาไม่ดี สุขภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน ก็มีโอกาสกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและทำให้สุขภาพของครอบครัวของท่านแย่ลงได้เช่นกัน บทความนี้ผมจึงมาพูดถึง 3 สิ่งสำคัญที่ท่านจะต้องคำนึงและตระหนักถึงในการสร้างและออกแบบห้องน้ำ

3 สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเวลาออกแบบห้องน้ำ

เลือกใช้สุขภัณฑ์อย่างไรให้เหมาะสมในยุค New Normal

1 รูปแบบการออกแบบ
สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดในการสร้างห้องน้ำคือ การออกแบบ ซึ่งจำเป็นจะต้องออกแบบให้ห้องน้ำมีระบบระบายอากาศที่ดี สามารถระบายอากาศได้ง่าย เพื่อลดกลิ่นและลดโอกาสที่เชื้อโรคจะสะสมอยู่ในอากาศภายในห้องน้ำ นอกจากนี้ก็ต้องมีแสงแดดเข้าถึงเพียงพอ แล้วถ้าเป็นไปได้ก็ควรออกแบบให้แยกระหว่างพื้นที่แห้งและพื้นที่เปียกเพื่อง่ายต่อการใช้งาน การดูแลและทำความสะอาด

นอกจากนี้ก็ควรที่จะออกแบบให้ห้องน้ำอยู่ชิดมุมใดมุมหนึ่งของตัวบ้านหรือชิดติดกับผนังของบ้านด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้สามารถทำรูระบายอากาศและช่องรับแสงได้ดี หรือหากติดขัดในข้อจำกัดต่าง ๆ ไม่สามารถทำได้อย่างที่กล่าวมาข้างต้น อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะติดตั้งระบบปรับอากาศหรือพัดลมปรับอากาศเชื่อมต่อกับท่อระบายอากาศไปสู่ภายนอกตัวบ้านเอาไว้ ทั้งนี้นี่เป็นจุดสำคัญที่สุดเพื่อเป็นการระบายอากาศและระบายเชื้อโรคที่อาจสะสมอยู่ในอากาศของห้องน้ำ และยังป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มีโอกาสหลุดรั่วออกมา

เลือกใช้สุขภัณฑ์อย่างไรให้เหมาะสมในยุค New Normal

2 การเลือกใช้โถสุขภัณฑ์
จริง ๆ แล้วในการเลือกใช้สุขภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า อ่างน้ำหรือส่วนอื่น ๆ ในห้องน้ำ ล้วนสำคัญทั้งหมด แต่จะขอกล่าวถึงโถสุขภัณฑ์เป็นพิเศษเนื่องจากเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนและสำคัญต่อการใช้งานมากที่สุด เพราะหากเลือกไม่ดีก็จะมีปัญหาในระยะยาวอย่างมาก

ในการเลือกใช้โถสุขภัณฑ์จำเป็นจะต้องเลือกโถสุขภัณฑ์ที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลดความเสี่ยงในการสะสมของเชื้อโรค ซึ่งคุณสมบัติหลัก ๆ ก็จะเป็น การมีระบบระบายน้ำที่ดี การทำความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยม กดแค่ครั้งเดียวก็สะอาดหมดจด ไม่ควรมีซอกมุมตามโถ เพราะมีโอกาสที่เชื้อโรคสิ่งสกปรกจะไปอุดตันแล้วกลายเป็นแหล่งสะสมเพาะพันธุ์เชื้อโรค ที่สำคัญก็คือจะต้องประหยัดน้ำและสวยงามเหมาะสมกับห้องน้ำด้วย

เลือกใช้สุขภัณฑ์อย่างไรให้เหมาะสมในยุค New Normal

3 การดูแลรักษาภายในห้องน้ำ
เมื่อห้องน้ำถูกออกแบบมาอย่างดีแล้ว มีการเลือกใช้โถสุขภัณฑ์ที่เหมาะสม ทำความสะอาดง่าย ประหยัดน้ำและสวยงาม นอกจากนี้ส่วนอื่น ๆ ของห้องน้ำก็ถูกออกแบบมาอย่างดีเหมาะแก่การใช้งานแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการใช้งานและการดูแลรักษาในระยะยาว ห้องน้ำที่ดีควรจะได้รับการรักษาความสะอาดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นควรจะแห้งให้ได้ตลอดเวลา ยกเว้นแต่จะเป็นพื้นที่เปียกที่ถูกกำหนดไว้ตอนออกแบบ

นอกจากนี้ควรจะต้องมีการล้างทำความสะอาดตัวห้องน้ำอย่างน้อยเดือนละ 2-3 ครั้ง มีการจดบันทึกและเช็คระยะการดูดส้วมอยู่เป็นประจำ การวางสิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดแชมพู สบู่ ยาสระผม ควรวางให้เป็นระเบียบ เพราะหากวางไม่เป็นระเบียบแล้วหล่นลงมาเกะกะตามพื้นก็มีโอกาสจะทำให้เกิดอุบัติเหตุสะดุดลื้นล้มได้ง่าย ๆ เวลาพื้นเปียกหรือลื้น

ทั้งหมดนี้คือ ข้อควรรู้และควรคำนึงในการออกแบบห้องน้ำได้เลือกใช้สุขภัณฑ์ให้เหมาะสมในยุค New Normal เพราะเราคงไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปว่าการใช้ชีวิตหลังจากนี้จะต้องคำนึงถึงความสะอาดและสุขอนามัยมาเป็นที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างช่วงวิกฤตโรคระบาดหรือหลังจากนี้ก็ตาม ดังนั้นห้องน้ำจึงเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของบ้านที่จำเป็นจะต้องใส่ใจในการออกแบบและเลือกใช้สุขภัณฑ์ต่าง ๆ สุดท้ายหวังว่าบทความนี้จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับท่านที่ต้องการจะสร้างห้องน้ำ หรือกำลังเลือกซื้อสุขภัณฑ์ต่าง ๆ นะครับ

 

รู้จักไม้แบบก่อสร้าง

ไม้แบบก่อสร้าง คือ โครงสร้างชั่วคราวที่ทำจากไม้ ใช้สำหรับติดตั้งเป็นแม่แบบในงานหล่อคอนกรีตและคอนกรีตเสริม สำหรับโครงสร้างและส่วนประกอบต่าง ๆ ของอาคาร เช่น เสา คาน พื้น ถนน เป็นต้น โดยใช้ไม้แบบ จะมีหน้าที่รับน้ำหนักของคอนกรีต และสร้างขอบเขตในการเทให้คอนกรีตออกมาเป็นรูปแบบตามต้องการ

ไม้แบบจะเป็นลักษณะคล้ายไม้กระดานสำหรับปูพื้น ทำมาจากไม้กระบาก ไม้ยาง ไม้สน หรือไม้อัดประสานชนิดต่าง ๆ มีขนาดหน้ากวาง 6 , 8 และ 10 นิ้ว ความหนาทั่วไปของไม้โดยประมาณ 1 นิ้ว และมีความยาวเท่ากับระยะช่วงมาตรฐานหรือขนาดของห้องที่ได้รับความนิยมกัน คือ 2.5 , 3 , 3.5 หรือ 4 เมตร เพื่อให้พอดีสำหรับการติดตั้งไม้แบบในการหล่อคอนกรีต รวมถึงยังมีการใช้ในแผ่นไม้อัดเคลือบฟิล์ม ในการหล่อคอนกรีตอีกด้วย ชั้นฟิล์มพลาสติกที่เคลือบอยู่นี้จะช่วยป้องกันปูนไม่ให้ยึดติดแน่นกับแผ่นไม้ ทำให้ถอดแบบได้สะดวก และสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีก โดยแผ่นไม้อัดทั่วไปจะมีขนาด 1.2×2.4 เมตร และมีความหนา 10 , 15 หรือ 20 มิลลิเมตร นิยมใช้กระดานในส่วนของโครงสร้างเสา คาน หรือบันได ส่วนแผ่นไม้อัดจะใช้งานในส่วนของพื้นผิวมากอย่างเช่น ฐานราก ผนัง หลังคาดาดฟ้าหรือพื้น เป็นต้น

ไม้แบบสำหรับงานก่อสร้างมีมากมายหลายชนิด และการเลือกใช้งานไม้แบบแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งาน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าไม้แบบประเภทไหนเหมาะสำหรับใช้งานอะไร

1.ไม้ยูคาลิปตัส
เป็นไม้ที่นำมาใช้ในการก่อสร้างในเรื่องของการเทพื้น ค้ำยันเสาเวลาเทพื้น รองปั้นจั่น ตอกเสา ทำเพิง ทำป้ายโฆษณา เพราะเนื้อไม้มีความแข็งแรง ทนทานและสามารถใช้ในการสร้างบ้านพันอาศัยชั่วคราวสำหรับคนงาน

2.ไม้เบญจพรรณ
เป็นไม้ผสมทั้งเนื้อแข็งและเนื้อ่ออน เป็นไม้ที่นิยมกันมากที่สุด โดยกรใช้งานใช้ทำแบบเสา ทำโครงสำหรับยึดแบบ เทพื้น ทำนั่งร้าน ทำแปหลังคา มีความคงทนปานกลาง

3.ไม้ยางมาเลย์
เหมาะสำหรับงานก่อสร้างเพราะมีลักษณะเฉพาะตัวที่เหมาะสม เป็นไม้เนื้อแข็ง ตีตะปูง่าย มีราคาไม่แพง และมีการนำเข้าส่งออกเป็นจำนวนมากในประเทศไทย เหมาะสำหรับทำแบบ ไม้หน้าสาม ไม้ฝ้า ไม้โครงต่าง ๆ โดยไม้ยางมาเลย์จะใช้งานได้ดีกว่าไม้เบญจพรรณ

4.ไม้กระบาก
เป็นไม้ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพระมีคุณภาพดี ไม่บิดงอ และสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง ทำงนง่าย ตีตะปูง่าย ใช้ทำแบบหล่อคอนกรีตได้ดี

5.ไม้เต็ง
เป็นไม้ที่มีสีน้ำตาลแก่แกมแดง เนื้อหยาบ มีความทนทาน เหมาะสำหรับทำหมอนรองรางรถไฟ ทำโครงสร้างอาคาร เหมาะกับงานตกแต่งภายในและภายนอก

6.ไม้ไผ่
ไม้ไผ่ในงานก่อสร้างมักจะใช้สำหรับนั่งร้าน โดยจะมีไผ่ตันซึ่งมีความแข็งแรง และไผ่นวลซึ่งมีลักษณะกลวงและใช้ร่วมสำหรับไม้ขันสน็อกและเชือกไนล่อนหรือเชือกฟาง