วันนี้ผมจะพาทุกคนมารู้จักกับแผ่นปูพื้นหรือวัสดุที่นำมาปูทับพื้นว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งวัสดุที่เป็นที่นิยมและเห็นได้บ่อยที่สุดจะมีด้วยกัน 2 ชนิดคือ พื้นไม้ลามิเนตกับกระเบื้องยางลายไม้ ผมจึงอยากเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียความเหมือนและความต่างให้กับทุกท่านได้ทราบ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกวัสดุปูทับพื้นบ้านของท่าน
ถ้าจะพูดถึงวัสดุปูทับพื้นวัสดุที่หลายคนน่าจะอยากใช้นานที่สุดคงจะหนีไม่พ้นพื้นไม้ แต่เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างสูงจึงทำให้เจ้าของบ้านหลายท่านมีงบประมาณไม่เพียงพอในการปูไม้แท้ทับพื้นบ้านทั้งหมด วัสดุทดแทนไม้แท้เหล่านี้จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างบ้าน ส่วนวัสดุหลัก ๆ ที่เราจะเห็นกันทั่วไปก็คือพื้นไม้ลามิเนตและกระเบื้องยางลายไม้ ดังนั้นวันนี้ผมจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่าง ข้อดีและข้อเสียของแต่ละชนิดมาบอกกับทุกท่าน
พื้นไม้ลามิเนต
ผลิตขึ้นจากเศษผงไม้ที่นำมาขึ้นรูปรวมกับวัสดุอื่น ๆ จากนั้นก็นำมาทำผิวหน้าเป็นลายไม้เพื่อปูทับพื้นให้มีลักษณะเหมือนกับพื้นไม้
ข้อดี ของกลุ่มพื้นไม้ลามิเนตคือ ให้ความรู้สึกเป็นไม้เวลาสัมผัสกับพื้นได้ดีกว่ากลุ่มที่เป็นกระเบื้องยาง อีกหนึ่งข้อดีของพื้นไม้ลามิเนตคือราคาที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับกระเบื้องยางลายไม้ แต่ก็จะมีจุดอ่อนที่ความคงทนแข็งแรง เนื่องจากทำมาจากไม้จึงทำให้มีโอกาสกรอบง่าย และเนื่องจากมีส่วนผสมของไม้จึงมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาปลวกหรือน้ำซึมเข้าไปในพื้นผิวหรือเข้าไปใต้แผ่นไม้ลามิเนต ตรงนี้เจ้าของบ้านจะเป็นจะต้องดูแลในเรื่องของการบำรุงรักษาให้ดี
กระเบื้องยางลายไม้
เป็นวัสดุปูพื้นกลุ่มที่ไม่ใช่ไม้ แต่นำมาขึ้นรูปเป็นแผ่นกระเบื้องยางที่มีการทำลวดลายด้านหน้าให้เหมือนไม้ ซึ่งจะมีทั้งแบบมีกาวและไม่มีกาวสามารถนำมาปูทับพื้นให้เหมือนกับกระเบื้องลายไม้ได้เลย
ข้อดีข้อของกระเบื้องยางลายไม้ คือเป็นวัสดุที่มีความทนทานยืดหยุ่นรับแรงกระแทกได้มากกว่าไม้ ไม่มีปัญหาเรื่องปลวกหรือแมลง แต่จุดอ่อนสำคัญของกระเบื้องยางลายไม้คือ จะให้ความรู้สึกที่เป็นไม้จากเนื้อสัมผัสต่ำกว่าพื้นไม้ลามิเนตและราคาก็จะค่อนข้างสูงกว่าพื้นไม้ลามิเนตเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามของวัสดุปูพื้นทั้งสองคือ ทั้ง 2 กลุ่มนี้เป็นงานแห้งทั้งหมด สามารถเริ่มงานได้ทันทีจบงานได้ไวภายในเวลาไม่กี่วัน หรือว่าเป็นการปูพื้นแค่ห้อง 1 ห้องเวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงก็สามารถจบงานได้ภายใน 1 วัน
การใช้งานของแต่ละประเภท
เรื่องการใช้งานพื้นไม้ลามิเนตและกระเบื้องยางลายไม้สามารถนำไปใช้ในห้องที่แตกต่างกันได้ดังนี้
พื้นไม้ลามิเนต จะเหมาะกับปูพื้นห้องที่ไม่ได้มีความชื้นสูงหรือไม่ใกล้พวกอ่างน้ำต่างๆ การถูพื้นห้องก็ต้องระมัดระวังพยายามเช็ดให้แห้ง ห้องส่วนใหญ่ที่นำไปปู เช่น ห้องนอน เป็นต้น
ส่วนกระเบื้องยางลายไม้ จะเหมาะกับห้องที่มีการใช้งานบ่อยมีการเดินมีการเล่นของเด็ก ๆ หรืออาจจะมีโอกาสเกิดน้ำหกได้บ่อย ห้องที่เหมาะจะใช้กับพื้นประเภทนี้มากกว่า เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก เป็นต้น
จะเห็นว่าวัสดุปูพื้นทั้ง 2 แบบเหมาะกับการใช้งานคนละแบบการมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ดังนั้นถ้าท่านจะเลือกใช้ก็เลือกเอาตามงบประมาณและการใช้งานของท่านได้เลย