ในการสร้างบ้านแต่ละครั้งเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องมีการขยับขยายปรับปรุงโครงสร้างบ้าน หรือหลาย ๆ ครั้งอาจมีการต่อเติมส่วนที่จำเป็นต้องใช้งานเพิ่มขึ้น และเมื่อพูดถึงโครงสร้างแล้วส่วนที่จะมาเป็นพระเอกในงานโครงสร้างก็คือตัวเสาเข็ม ซึ่งวันนี้ผมจะมาพูดถึงเสาเข็มไมโครไพล์ พระเอกในงานฐานรากขนาดเล็กถึงกลาง
งานฐานรากคืออะไรและสำคัญอย่างไร
ในการสร้างบ้านหรือสร้างตัวอาคารขึ้นมาใหม่สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกในงานวิศวกรรมคือ งานฐานราก เนื่องจากฐานรากเป็นส่วนสำคัญที่รับน้ำหนักของโครงสร้างทั้งหมดเอาไว้ ดังนั้นความแข็งแรงของฐานรากจึงเป็นตัวกําหนดความปลอดภัยหรืออันตรายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากโครงสร้างได้
งานฐานรากจะแบ่งด้วยกันหลักทั้งหมด 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 เรียกว่างานฐานแผ่
เป็นงานฐานรากที่ไม่จำเป็นจะต้องมีเสาเข็ม ลักษณะงานจะเป็นการต่อคานลงไปเล็กน้อยใต้ดิน โดยมีเสาค้ำคานอยู่เป็นจุด ๆ ทั่วบริเวณแผ่นฐานราก
งานฐานรากประเภทนี้จะเป็นงานที่ไม่มีเสาเข็มเพราะน้ำหนักทั้งหมดจะถ่ายลงไปจากตัวอาคารสูงอาคารไปสู่พื้นดินได้เลย ซึ่งงานประเภทนี้ก็เหมาะกับเนื้อที่ที่มีดินค่อนข้างแน่น แข็ง รับน้ำหนักได้ดี จะไม่เหมาะกับพื้นดินที่เป็นที่ราบลุ่มหรือพื้นที่ลุ่มน้ำอย่างเช่นภาคกลาง
ประเภทที่ 2 เรียกว่างานเสาเข็ม
เป็นลักษณะงานที่ตรงข้ามกับงานฐานแผ่ เพราะงานฐานแผ่จะเป็นการกระจายน้ำหนักไปทั่วบริเวณ แต่งานเสาเข็มจะมีตัวรับน้ำหนักเป็นเสาเข็มเพียงแค่ต้นเดียว โดยการตอกเสาเข็มลงไปลึกถึงจุดหนึ่ง ที่ผ่านการคำนวณมาแล้วว่าสามารถรับน้ำหนักของตัวบ้าน โดยส่วนมากจะเจาะทะลุชั้นดินอ่อนหรือดินนุ่มที่อยู่ด้านบน ไปลึกจนถึงชั้นดินแข็งเพื่อให้รับน้ำหนักของตัวบ้าน
โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงพระเอกของเสาเข็มแบบเข็มตอก นั่นก็คือเสาเข็มไมโครไพล์
เสาเข็มไมโครไพล์คืออะไร
โดยทั่วไปงานเสาเข็มจะแบ่งด้วยกันหลัก ๆ 2 แบบคือ เข็มตอกและเข็มเจาะ เสาเข็มไมโครไพล์ก็เป็นเข็มตอกชนิดหนึ่ง โดยปกติแล้วเข็มตอกโดยทั่วไปจะมีข้อเสียตรงที่ เนื้องานจะต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะเนื่องจากต้องใช้เครนขนาดใหญ่ นอกจากนี้ก็มีปัญหาเรื่องความสั่นสะเทือนและเรื่องเสียงของการตอกที่ค่อนข้างดัง ซึ่งเสาเข็มไมโครไพล์ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้
เสาเข็มไมโครไพล์จะถูกผลิตออกมาให้มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร มีแผ่นเหล็กแปะปิดหัวท้าย ในการทำงานจะทำการตอกเสาเข็มทีละ 1 เมตรกว่า ๆ เมื่อลงไปจนถึงระยะหนึ่งก็จะทำการเชื่อมแผ่นเหล็กยึดติดหัวเสาเข็มกับเสาต้นต่อไป แล้วก็ทำการตอกลงไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งงานแบบนี้จะช่วยลดขนาดของการทำงานให้เล็กลง ลดเสียงและลดแรงสั่นสะเทือนจากการใช้เสาเข็มขนาดใหญ่และเครื่องจักรขนาดใหญ่ ซึ่งงานแบบนี้ก็สามารถตอกเสาเข็มไมโครไพล์ลงไปได้ลึกมากเท่าที่ต้องการไม่ว่าจะเป็น 16 เมตร 18 เมตร หรือ 22 เมตร ก็สามารถทำได้ทั้งสิ้น
ข้อดีของการใช้เสาเข็มไมโครไพล์
1.ราคา
โดยปกติแล้วเมื่อเทียบกันแบบต้นต่อต้น เสาเข็มแบบตอกแม้จะเป็นขนาดใหญ่ก็จะมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าเสาเข็มแบบเจาะ แต่เสาเข็มไมโครไพล์สามารถลดปริมาณของต้นทุนลงไปได้มากกว่าเดิม เนื่องจากขนาดงานค่อนข้างเล็ก นั่นเพราะเสาเข็มไมโครไพล์มีความสูงอย่างมากก็ 1.5 เมตร ตัวปั้นจั่นที่ใช้จึงไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องใหญ่ใช้ปั้นจั่นแค่ 3 เมตร ก็เพียงพอ ทำให้ลดขนาดงาน ลดจำนวนคนที่ต้องใช้และลดต้นทุนได้อย่างมาก
2. ใช้งานง่ายเหมาะแก่การต่อเติมบ้าน
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าหลายครั้งเมื่อใช้งานบ้านไปสักระยะนึงก็มีโอกาสที่จะเพิ่มส่วนต่อเติมออกมานอกตัวบ้าน หลายครั้งด้วยการเพิ่มส่วนต่อเติมการใช้เสาเข็มไมโครไพล์ก็ช่วยให้ความแข็งแรงของส่วนต่อเติมเพิ่มขึ้น แล้วลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากอุบัติเหตุและความไม่แข็งแรงของส่วนขยาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วก็จะใช้เสาเข็มไมโครไพล์แบบตัวไอ (ตัว I) ที่ราคาไม่สูงมาก
3. การขนส่งง่าย
เนื่องจากเสาเข็มไมโครไพล์เป็นงานที่มีขนาดเล็กทำให้การขนส่งค่อนข้างง่าย หลายครั้งขนส่งแค่ 1 รอบ 1 คันรถ ก็สามารถขนส่งทั้งหมดไปที่หน้างานได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้รถคันใหญ่เหมือนกับเสาเข็มตอกแบบขนาดใหญ่ 18,20,22 เมตร นี่เองก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาของการขนส่งถูกกว่า
ในการเลือกใช้เสาเข็มไมโครไพล์สิ่งที่จำเป็นและสำคัญที่สุดในการเลือกคือเรื่องของคุณภาพและรูปแบบของการใช้งาน
ซึ่งเสาเข็มไมโครไพล์มีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ
แบบแรกเรียกว่าเสาเข็มสปัน มีลักษณะเป็นทรงกระบอกมีรูกลมตรงกลาง เป็นเสาเข็มที่ถูกผลิตมาให้มีความแข็งแรงมากที่สุด และทนทานมากที่สุดในบรรดารูปแบบของเสาเข็มไมโครไพล์ทั้งหมด
แบบที่ 2 เรียกว่าเสาเข็มแบบตัวไอ เป็นเสาเข็มที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับตัวไอ โหลดงานค่อนข้างน้อย ทำให้เหมาะกับงานทั่วไปที่ไม่ใหญ่มากอย่างเช่นงานต่อเติมบ้านเป็นต้น
แบบที่ 3 เรียกว่าเสาเข็มหน้าตัดเหลี่ยม ลักษณะโดยทั่วไปก็คล้ายกับเสาเข็มตัวไอ เพียงแต่ไม่มีส่วนเว้าเหมือนตัวไอ จะเป็นเสาแท่งตรงหน้าตัด 4 เหลี่ยม ทำให้มีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้มากกว่าแบบตัวไอ
ทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกใช้เสาเข็มไมโครไพล์ โดยท่านสามารถเลือกใช้เสาเข็มเหล่านี้ให้เหมาะกับขนาดงานที่ต้องการจะใช้ได้ และที่สำคัญที่สุดในการเลือกใช้แต่ละครั้งจะดูเรื่องมาตรฐานการผลิตหรือ มอก. ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สำคัญในการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างทุกชนิด สุดท้ายหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และมีส่วนช่วยในการเลือกใช้เสาเข็มไมโครไพล์