อินทรีมอร์ตาร์ 71 นอนชริ้งค์เกร้าท์ สำหรับงานเกร้าท์ทั่วไป

คุณลักษณะพิเศษปูนเกราท์อินทรามอร์ตาร์ 71

• มีความสามารถในการไหลตัวอย่างดีเยี่ยม
• ไม่เกิดการหดตัว
• ไม่เยิ้มน้ำ
• สามารถใช้กับเครื่องปั๊มได้
• เนื้อละเอียด สามารถเทในช่องแคบที่มีขนาด 10 มิลลิเมตรได้
• ทนต่อแรงกระแทก
• ไม่เป็นพิษและไม่ก่อให้เกิดสนิม
• ได้รับมาตรฐาน มอก. 2701-2559 (มาตรฐานซีเมนต์ไฮดรอลิกเกราท์)

การผสม อินทรีมอร์ตาร์ 71 ปูนเกราท์ชนิดไม่หดตัว

• ชั่งหรือตวงน้ำตามปริมาณที่ต้องการใส่ลงในภาชนะ
• ใช้สว่านผสมที่ความเร็วรอบ 400 – 600 รอบต่อนาที ค่อย ๆ เทปูนเกราท์ลงในน้ำที่เตรียมไว้ให้หมดภายใน 30 วินาที
• ผสมอย่างต่อเนื่องอีก 2-3 นาที จนส่วนผสมกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
• พักส่วนผสมไว้สักครู่ เพื่อลดปริมาณฟองอากาศที่เกิดจากการผสม
• ในกรณีที่ต้องผสมปริมาณมาก แนะนำให้ผสมในปริมาณน้อยทีละชุดเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันง่ายขึ้น
• ไม่ควรเพิ่มปริมาณน้ำในการผสมเกินกว่าค่าที่กำหนดไว้

การใช้งาน

• ควรทำราง (Hopper) หรือแท่นกรวย เพื่อช่วยให้ปูนเกราท์ไหลตัวได้สะดวกและต่อเนื่อง
• การเทควรเทจากด้านใดด้านหนึ่งโดยควบคุมแรงดันให้สม่ำเสมอและต่อเนื่องตลอดเวลาที่เทจนเต็ม เพื่อป้องกันการเกิดโพรงอากาศด้านในและชั้นรอยต่อ
• อาจต้องใช้ลวดกระทุ้งปูนเกราท์ให้เต็มช่องว่างและไล่ฟองอากาศที่ติดอยู่ภายใน แต่ไม่ควรใช้เครื่องจี๊เพราะอาจทำให้เกิดการแยกชั้น
• ควรเทที่อุณหภูมิระหว่าง 20-35 °C หากเทในอุณหภูมิต่ำ ระยะเวลาเซ็ตตัวจะนานขึ้นและกำลังอัดจะพัฒนาช้าลง หลีกเลี่ยงการเทในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง เพราะจะทำให้ปูนแข็งตัวเร็วขึ้นและอาจเกิดรอยร้าว

การบ่มที่เหมาะสมจะช่วยให้ปูนเกราท์มีคุณสมบัติที่ดีและทนทานตามที่ต้องการ

• ควรป้องกันไม่ให้พื้นผิวสัมผัสกับลมหรือแสงแดดจัด
• หลังการใช้งาน ควรรักษาความชื้นของพื้นผิวประมาณ 3-4 วัน เพื่อให้เกิดการบ่มอย่างมีประสิทธิภาพ
• สามารถใช้วิธีการบ่มด้วยน้ำยาบ่มสำหรับคอนกรีตสดเพื่อรักษาความชื้น

ข้อควรระวังการใช้งาน อินทรีมอร์ตาร์ 71 ปูนเกราท์ชนิดไม่หดตัว

• ไม่ควรเทลงบนพื้นผิวที่ร้อนจัดเกิน 40 องศาเซลเซียส
• เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นพิษและไม่ติดไฟ แต่มีฤทธิ์เป็นด่าง ควรสวมถุงมือและแว่นตาเพื่อป้องกันการสัมผัส
  • หากสัมผัสผิวหนัง ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที
  • หากเข้าตา ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและรีบไปพบแพทย์
• ใช้งานในที่เปิดโล่งหรือมีการระบายอากาศที่ดี
• ห้ามผสมทรายหรือสารเคมีเพิ่มเติม
• ควรใช้งานตามคำแนะนำเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

การเห็บรักษา

• ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและยังไม่เปิดใช้งาน มีอายุการเก็บรักษา 12 เดือนนับจากวันที่ผลิต
• ควรเก็บในที่ที่มีการระบายอากาศได้สะดวก แห้ง และไม่ชื้น